ข้าว กข.43 By HappyCenter บทความน่ารู้ ตอนที่ 1

ข้าวที่สามารถปลูกได้ภายในประเทศมีหลากหลายสายพันธุ์ แบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ ข้าวเจ้า และข้าวเหนียว ซึ่งภายนอกมีความคล้ายกันแต่ต่างกันที่ลักษณะของเนื้อในเมล็ด

โดยข้าวเจ้าที่คนไทยนิยมรับประทานกันสามารถแบ่งออกตามสีได้อีก ได้แก่

1.ข้าวสีขาว เช่น ข้าวหอมมะลิ ข้าวเสาไห้ ข้าวหอมปทุม

2.ข้าวสีแดง เช่น ข้าวมันปู ข้าวสังข์หยด

3.ข้าวสีเหลือง/น้ำตาลอ่อน เช่น ข้าวเหลืองปะทิว

4.ข้าวสีดำ เช่น ข้าวหอมนิลหรือข้าวสีนิล

5.ข้าวสีม่วงเข้ม เช่น ข้าวไรซ์เบอร์รี่

ข้าวเหนียว เมื่อหุงสุกเมล็ดข้าวจะเหนียวติดกัน พันธุ์ที่นิยมปลูกกันมาก ได้แก่ ข้าวเหนียวดำหรือข้าวก่ำ ข้าวเหนียวเขี้ยวงู ข้าวเหนียวลืมผัว เป็นต้น

ในปัจจุบันมีทางเลือกในการบริโภคข้าวชนิดต่างๆ มากขึ้นเพราะประชาชนหันมาใส่ใจกับการรักษาสุขภาพด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การออกกำลังกาย การรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อาหารเสริม อาหารปลอดสารเคมี การใช้สมุนไพรแทนการใช้ยา ทั้งนี้จึงขอแนะนำข้าวโภชนาการสูง (High nutritious rice)อย่างข้าว กข43 ซึ่งเป็นข้าวที่มีคุณค่าทางอาหารในประมาณที่สูงกว่าข้าวทั่วไป และมีสารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายต่างๆ

ข้าว กข43 มีคุณสมบัติพิเศษคือ มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำกว่าข้าวอื่นๆ ทั่วไป เช่น ข้าว กข15 มีดัชนีน้ำตาลที่ 69.1 ข้าวพิษณุโลก80 ค่าดัชนีน้ำตาลอยู่ที่ 59.5 แต่ข้าว กข43 มีค่าดัชนนีน้ำตาลที่ 57.5 เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีค่าอมิโลสต่ำเพียง 18.82  (ค่าที่สามารถระบุความนุ่มเหนียว และร่วนแข็งของข้าวได้ ยิ่งค่าอมิโลสต่ำ ข้าวก็ยิ่งนุ่ม) ระดับที่เหมาะสมคือ 10-19 ทำให้ข้าว กข43 ใกล้เคียงกับข้าวหอมดอกมะลิ 105

ข้าว กข43 เป็นข้าวที่มีความอ่อนนุ่ม อร่อย มีน้ำตาลต่ำ เหมาะสำหรับผู้ดูแลสุขภาพ ผู้ที่ต้องการทานอาหารที่ควบคุมระดับน้ำตาล ช่วยปรับระดับน้ำตาลในกระแสเลือด ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานหรือผู้ที่ควบคุมน้ำหนักสามารถรับประทานได้ในประมาณที่เหมาะสมกับความต้องการพลังงานของร่างกาย

เรียบเรียงโดย ไอย์สุธา