ไข้เลือดสายพันธ์ใหม่ออกฆ่าชีวิตเด็กประถมไปแล้วรายแรก

อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่
นายสำราญ แสงสงค์ ข่าว
270662_ไข้เลือดสายพันธ์ใหม่ออกฆ่าชีวิตเด็กประถมไปแล้วรายแรก
27 มิถุนายน 2562 เวลา 1900 น
จากสถานการณ์ไข้เลือดออกระบาดในพื้นที่ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ได้ฆ่าชีวิตเด็กนักเรียนโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งไปแล้ว 1 ราย คือเด็กชายชานนท์ จอมปูตู อายุ 12 ปี เรียนอยู่โรงเรียนในระดับชั้นประถมปีที่ 5 โดยได้ติดเชื้อไข้เลือดออกจากหมู่บ้านปางควาย ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่

แต่ไม่ไปรักษาโรงพยาบาลไปอาศัยคลินิกเล็กๆแห่งหนึ่งทางแพทย์ได้ตรวจแล้วให้ยารักษาอาการไข้มารับประทานที่บ้านในวันพุธที่19 มิถุนายน 2562 เวลา 1700 น ได้มีอาการดีขึ้นไม่มีอาการไขอีก จนถึงวันอาทิตย์ ที่ 23 มิถุนายน 2562 เวลา 1700 น อาการทรุดลงไม่รู้สึกตัว จึงนำส่งโรงพยาบาลฝาง ทางแพทย์พยาบาลตรวจดูอาการแล้วจึงให้ส่งตัวเข้ารักษาโรงพยาบาลนครพิงค์ ประจำจังหวัดเชียงใหม่ เพราะทรุดหนักเลือดออกปากจมูกแล้ว ทางโรงพยาบาลนครพิงค์รับรักษาอาการจนดูแล้วดีขึ้นแต่ก็ยังมีอาการเลือดออกไม่หยุดจึงได้ให้เกล็ดเลือดโดยตลอดอาการดีขึ้น แต่ก็มีอาการทรุดหนักลงอีก จนถึงวันพุธ ที่ 26 มิถุนายน 2562 เวลา 2000 น จึงได้เสียชีวิตลง เพราะว่าอวัยวะภายในนั้นได้เสียหายโดยเฉพาะไตวายเฉียบพลัน ทางญาติจึงนำศพมาบำเพ็ญกุศลที่วัด มหาโพธิศิริบุญชุ่ม บ้านปางควาย ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ จากการสอบถานนายกู่มาละ จอมปูตู และนางทูล จอมปูตู พ่อและแม่ ก็ทราบว่าน้องได้ป่วยแต่ไม่รีบไปโรงพยาบาลแต่ไปรักษาที่คลินิก และได้ยามารับปทานซึ่งมันไปรักษาอาการชั่วคราวแต่เชื้อตัวใหม่นี้ไม่หยุดอาการได้ทำลายอวัยวะภายในมาตลอดจนถึงทรุดตัวเลือดออกปากจมูกจึงนำไปรักษาโรงพยาบาลจึงทำให้เสียชีวิตและทางแพทย์ยังไม่สามารถระบุเชื้อไข้เลือดออกว่าเป็นสายพันธ์ไหนเพียงทราบว่าเป็นสายพันธ์ใหม่ ทางครูนภาพร ทาทอง ครูประจำชั้นก็ได้เล่าว่าน้องเป็นเด็กที่ดีมาก ร่าเริงแจ่มใสน่ารัก เอาใจเพื่อนดี แต่ไม่คิดว่าจะมาเสียชีวิตง่ายๆๆ ส่วนทางแพทย์และพยาบาลโรงพยาบาลบ้านแม่งอนตำบลแม่งอนได้เรียก อสม ทุกหมู่บ้านเข้าพบและเตรียมการณ์รณรงค์และให้ความรู้กับ อสม ถ้าพบคนเป็นไข้ให้นำส่งโรงพยาบาลทันทีเพื่อจะทำการคัดกรองผู้ป่วย อย่าหายากินเองอันขาด และได้ทำการพ่นยาฆ่ายุงแล้วหลายรอบ ในวันพรุ่งนี้ทางโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชนบ้านยางก็จะทำการคัดกรองคนไข้ในหมู่บ้านเพื่อป้องกันการเสียชีวิต