บุรีรัมย์ เหล่ากาชาดบุรีรัมย์จับมือสถานศึกษา เพิ่มจิตอาสาบริจาคโลหิต แนะวัยรุ่นบริจาคเสริมสุขภาพระยะยาว

เหล่ากาชาดบุรีรัมย์ ลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) เพื่อเพิ่มจิตอาสาบริจาคโลหิต ในสถานศึกษาหวังเพิ่มคลังเลือด หลังพบโลหิตในคลังไม่เพียงพอ ผอ.ศูนย์โลหิตแห่งชาติระบุ วัยรุ่นบริจาคตั้งแต่อายุ 17 ปีไปจนถึงอายุ 70 ปีจะมีสุขภาพดี

วันที่ 20 มี.ค.ลานชั้นสองห้างโรบินสัน จ.บุรีรัมย์ ได้มีการทำพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงฯ ระหว่างเหล่ากาชาดจังหวัดบุรีรัมย์ , ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ ๕ จังหวัดนครราชสีมา สภากาชาดไทย, โรงพยาบาลบุรีรัมย์ ,มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ , อาชีวศึกษาจังหวัดบุรีรัมย์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต ๓๒ จ.บุรีรัมย์ และโรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์

ซึ่งมีเจตจำนงร่วมมือกันในการสนับสนุนการจัดหาโลหิต การประชาสัมพันธ์ การให้ความรู้ความสำคัญของการบริจาคโลหิต การเตรียมตัวบริจาคโลหิต การดูแลสุขภาพ เพื่อเพิ่มจำนวนผู้บริจาคโลหิตและป้องกันภาวะโลหิตจาง รวมทั้งส่งเสริมให้มีอาสาสมัครบริจาคโลหิตในสถานศึกษาระดับมัธยมศึกษา อุดมศึกษา

การลงนามดังกล่าวเพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้ ผู้บริหาร ครู เจ้าหน้าที่สถานศึกษา ในมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์, อาชีวศึกษา จังหวัดบุรีรัมย์ และนักเรียนในโรงเรียนมัธยมศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต ๓๒ และสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ บริจาคโลหิต

นาวาโทหญิงแพทย์หญิง อุบลวัณณ์ จรูญเรืองฤทธิ์ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ กล่าวว่า จากภาพรวมการบริจาคโลหิตยังถือว่าต่ำกว่าเกณฑ์ โดยเฉพาะจังหวัดบุรีรัมย์ มีการบริจาคโลหิตไม่ถึง 2 เปอร์เซ็นต์ แต่ความต้องการโลหิตมาช่วยเหลือผู้ป่วย 3 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากร

ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ยังกล่าวด้วยว่า การรณรงค์ดังกล่าวอยากให้เยาวชนนักเรียนนักศึกษา เข้าใจถึงประโยชน์ของการบริจาคโลหิต เพราะนอกจากจะเป็นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์แล้ว

วัยรุ่นอายุตั้งแต่ 17 ปีขึ้นไป สามารถบริจาคโลหิตได้ 3 เดือนต่อครั้ง และสามารถบริจาคจนถึงอายุ 70 ปี ถ้าทำได้จะทำให้ส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวมของร่างกาย จึงอยากจะให้เยาวชนหันมาเห็นความสำคัญในด้านจิตอาสาและสุขภาพของตัวเองในระยะยาว

ข่าว-ภาพ วาทิตย์ แสนธุปี ผู้สื่อข่าว จ.บุรีรัมย์