ทหารพม่ารบหนักกับกองกำลังผสมชนกลุ่มน้อยรัฐคะยา

ทหารพม่ารบหนักกับกองกำลังผสมชนกลุ่มน้อยรัฐคะยา

ทหารพม่ารุกหนักหลังถูกกองกำลังผสมชนกลุ่มน้อยรัฐคะยาสามารถเข้ายึดฐานที่ตั้งของทหารพม่าได้จำนวน 3 จุด ทำให้ทหารพม่ารุกคืบหน้าหวังเข้ายึดคืนฐานที่ตั้งคืนโดยใช้เครื่องบินรบทิ้งระเบิดตามแนวตะเข็บชายแดนทำให้ราษฎร 3 หมู่บ้านได้แก่บ้านแม่แจ๊ะ บ้านกลาง บ้านน้ำมาง ต่างพากันอพยพหนีตายเข้าฝั่งไทยเป็นจำนวนมาก ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้รับรายงานจากแหล่งข่าวว่า ทางฝ่ายทหารพม่าใช้เครื่องบินรบทิ้งระเบิดใส่หมู่บ้านในอำเภอแม่แจ๊ะได้รับความเสียหายกว่า 300 หลัง ยังไม่ทราบถึงผู้เสียชีวิตขณะนี้กำลังติดตามข่าวอยู่
เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2566 นายคูอูเหร่ (Khu Ou Reh) ประธานพรรคก้าวหน้าแห่งชาติคะเรนนี (Karenni Progressive Party -KNPP) ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวชายขอบทางโทรศัพท์ถึงสถานการณ์ #การสู้รบในรัฐคะเรนนี ซึ่งล่าสุดได้มีชาวคะเรนนีนับพันอพยพหนีข้ามมาหลบภัยยังฝั่งไทยด้าน อ.แม่สะเรียง และ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ว่า ขณะนี้ประชาชนจากรัฐคะเรนนีกว่า 3,000 คน จำเป็นต้องหนีภัยความตาย ข้ามฝั่งมายังประเทศไทยโดยเดินทางกันมาแบบตัวเปล่า แทบไม่มีอะไรติดตัวแม้กระทั่งอาหาร เพราะทุกคนต้องเอาชีวิตรอดจากการโจมตีของทหารพม่า ขณะนี้จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องมีที่พัก เต็นท์ โดยขอแค่หลังคาคลุมหัวก็พอเพราะมีฝนตกหนักในพื้นที่ โดยเฉพาะเด็กๆ คนชรา ผู้ป่วย และสตรีมีครรภ์
ประธาน KNPP กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์สู้รบในรัฐคะเรนนีขณะนี้ กองกำลัง KNPP และพันธมิตรได้ปฏิบัติการยึดฐานพม่าแล้ว 3 แห่ง แต่จำเป็นต้องทิ้งไป 1 แห่งในเขตเมือง เนื่องจากกองทัพพม่าพยายามเข้ายึดคืน แต่อีก 2 แห่งที่อยู่ไม่ห่างจากชายแดนนั้น เรายึดได้อย่างเบ็ดเสร็จแล้ว แต่ทางกองทัพพม่าก็ยังคงส่งอากาศยานมาบินวนเวียนอยู่ตลอดเวลา
สำหรับปฏิบัติการครั้งนี้อยู่ที่รัฐคะเรนนี ติดกับชายแดนไทย รวมถึงทางตอนเหนือและทางใต้ของรัฐฉาน โดยเวลานี้ชาวบ้านที่อพยพมารู้สึกเป็นกังวลเพราะมีเจ้าหน้าที่ทางการพม่า ปลอมตัวหนีปะปนเข้ามาด้วย เพราะต้องการสืบข่าว นายคูอูเหร่ กล่าว และว่าเมื่อเวลา 19.40 น.ในวันเดียวกันนี้ กองทัพพม่าได้ส่งเครื่องบินมาทิ้งระเบิดบริเวณโกดังสินค้าใกล้ด่านห้วยต้นนุ่น(BP13)

ซึ่งตรงข้าม อ.ขุนยวม
ในขณะเดียวกันที่ศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา จ.แม่ฮ่องสอน ได้เผยแพร่เอกสารข่าว โดยระบุว่า ในวันที่ 15 มิถุนายน ยังคงปรากฏข่าวสารการปะทะกันระหว่างทหารพม่าและกองกำลังชนกลุ่มน้อย/กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา บริเวณแนวชายแดนด้านตรงข้ามชองทางเสาหิน ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง และช่องทางห้วยต้นนุ่น ต.แม่เงา อ.ขุนยวม โดยล่าสุดมีผู้หนีภัยข้ามมายังฝั่งไทยแล้ว 3,171 คน โดยพักอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง โดยศูนย์สั่งการชายแดนฯ ระบุด้วยว่า การปฏิบัติที่สำคัญคือ กองกำลังนเรศวรและฝ่ายปกครอง ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องเพื่อเตรียมพร้อมในการรองรับสถานการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ขณะที่กองทัพอากาศได้จัดอากาศยานลาดตระเวนรบในพื้นที่แนวชายแดนเพื่อป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยจำนวน 2 ครั้งขอให้ประชาชนไม่ต้องตกใจ นอกจากนี้ยังมีการบูรณาการร่วมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดูแลความปลอดภัยและให้การช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมกับผู้หนีภัยความไม่สงบ โดยได้มีการเปิดรับสิ่งของบริจาค ณ ที่ว่าการอำเภอแม่สะเรียงและที่ว่าการอำเภอขุนยวมทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ

เกียรติศักดิ์ รักสัตย์ / เกียรติยศ รักสัตย์ ทีมข่าวภูมิภาคประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน Cr.ข้อมูลบางส่วนจากสำนักข่าวชายขอบ