DSIบุกช่วยหญิงลาวถูกนำมาค้าประเวณีที่โก-ลก

ภาพ/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ นราธิวาส

DSIบุกช่วยหญิงลาวถูกนำมาค้าประเวณีที่โก-ลก

เมื่อเวลา 20.30 น. ของวันที่ 29 เมษายน 62 ที่ผ่านมา พ.ต.ต.มิตร พรหมมา ผอ.ส่วนคดีการค้ามนุษย์ นายณรงค์ ทิพย์ศิริ ผอ.ส่วนกำกับสืบสวนและปราบปราม สำนักการสอบสวนและนิติการกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย นายมานะ สิมมา ผู้เชี่ยงชาญเฉพาะด้านกฎหมาย สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ร่วมกับนายปรีชา นวลน้อย นายอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุไหงโก-ลก และเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.นราธิวาส นำกำลังเข้าตรวจค้นร้านคาราโอเกะรีแลคผับ ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 97/23 ถ.เจริญเขต ซอย 3เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก สืบเนื่องจากองค์กรพัฒนาเอกชนOUR ได้รับแจ้งเบาะแสให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ และชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ทราบว่ามีการนำหญิงชาวลาวเข้ามาค้าประเวณีที่ร้านอย่าอิจฉา อ.เชียงคาน จ.หนองคาย

ซึ่งชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองได้ร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้าทำการสืบสวนจับกุมผู้ประกอบการร้านอย่าอิจฉา และช่วยเหลือหญิงชาวลาวได้จำนวน 10 คน เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 62 ที่ผ่านมา จากการสืบสวนขยายผลของเจ้าหน้าที่ จนทราบว่าเด็กสาวชาวลาว 1 ใน 10 คน เคยมาทำงานอยู่ค้าประเวณีอยู่ที่ร้านคาราโอเกะรีแลคผับ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส

จากการบุกตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ พบหญิงสาวชาวลาว จำนวน 12 คน อยู่ภายในร้าน โดยมีนายอานนท์ หาแก้ว อายุ 41ปี อยู่บ้านเลขที่ 109 ม.12 ต.หนองใหญ่ อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ รับเป็นเจ้าของร้าน และมีนายศักดา คำกัลยา อายุ34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 ม.12 ต.หนองใหญ่ อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ รับเป็นผู้ดูแล รวมกับพนักงานอีก 2 คน และจากการตรวจสอบหลักฐานเอกสารหนังสือเดินทาง หรือ พลาสเปอร์ พบว่า ทั้ง 10 มีหนังสือเดินทางถูกต้องตามกฎหมาย แต่ไม่มีเอกสารเข้ามาทำงานในราชอาณาจักร ส่วนหญิงสาวชาวลาวอีก 2 คน ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่าอายุต่ำกว่า 18 ปี แต่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบหนังสือเดินทางหรือพลาสเปอร์ พบว่าหนังสือเดินทางหรือพลาสเปอร์หมดอายุ

โดยเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าร้านดังกล่าวเปิดเป็นร้านคาราโอเกะ แต่ลูกค้าสามารถซื้อหญิงบริการออกไปร่วมประเวณีได้ ในอัตรา 1 ชั่วโมง ราคา 1,500 บาท โดยทางร้านจะได้รับส่วนแบ่ง จำนวน 750 บาทต่อครั้งต่อคน

หากค้างคืน ราคา 3,000 บาท ทางร้านจะได้รับส่วนแบ่งจำนวน800 บาทต่อครัังต่อคน แต่หญิงบริการจะได้รับค่าตัวตอนช่วงสิ้นเดือน

เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวหญิงสาวชาวลาวทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการคุ้มครอง และคัดแยกยังบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.นราธิวาส โดยมีทีมสหวิชาชีพ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทำการสอบสวนอย่างละเอียดเนื่องจากในเบื้องต้นหญิงสาวชาวลาว 2 คน ระบุว่าตนเองมีอายุต่ำกว่า 18 ปี โดยเจ้าหน้าที่จะมีการส่งตัวไปตรวจอายุกระดูกที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อยืนยันอายุที่แท้จริงต่อไป

โดยในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับนายอานนท์ เจ้าของร้าน และผู้ดูแลอีก 3 คนจำนวน 4 ข้อหา คือ 1.ร่วมกันเป็นธุระจัดหาให้มีการค้าประเวณี 2.เป็นเจ้าของสถานการค้าประเวณี 3.ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต และ4.รับคนต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตทำงานเข้าทำงาน ซึ่งหากผลการตรวจอายุกระดูกของหญิงบริการออกมาว่าอายุต่ำกว่า 18ปีบริบูรณ์ เจ้าหน้าที่จะได้พิจารณาร้องทุกข์กล่าวโทษเพิ่มเติมให้มีการดำเนินคดีกับผู้ประกอบการ ในข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์ต่อไป ซึ่งหากพบหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงบุคคลใดเจ้าหน้าที่จะได้พิจารณาดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกราย

ด้านนายปรีชา นวลน้อย นายอำเภอสุไหงโก-ลก กล่าวว่า การบุกจับกุมในครั้งนี้เป็นการขยายผลการจับกุมหญิงชาวลาวที่ อ.เชียงคาน จ.หนองคาย และหญิงสาวชาวลาวที่จับกุมได้ 12 คน แยกออกเป็นมีหนังสือเดินทางถูกต้องตามกฎหมายแต่ไม่มีใบอนุญาตขอเข้ามาทำงาน ส่วนอีก 2 คน มีหนังสือเดินทางถูกต้องตามกฎหมายแต่หมดอายุ และได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าอายุต่ำกว่า 18 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการตามขั้นตอนในการตรวจสอบกระดูก ว่าจริงเท็จหรือไม่อย่างไร ก่อนที่จะมีกระบวนการผลัดดันกลับประเทศต่อไป