บุรีรัมย์ หนุ่มชาวนาเร่งสูบน้ำเข้านาปรัง ญาติมาพบเป็นศพคว่ำหน้าริมอ่าง คาดเกิดอาการวูบจมน้ำประกอบกับมีโรคประจำตัว
ชาวนา วัย 39 ปี พร้อมญาติ เร่งสูบน้ำเข้านาปรังที่หว่านข้าวใหม่ ได้ 3 วัน โดยผลัดกันเฝ้าเครื่องสูบน้ำ กลับมาอีกที พบกลายเป็นศพ คว่ำหน้าขอบอ่างเก็บน้ำ คาดอากาศร้อนแล้ววูบล้มตกน้ำ ประกอบกับผู้ตายมีโรคประจำตัว จึงทำให้เสียชีวิต ระหว่างใส่ตาข่ายดักปลา
วันที่ 19 มี.ค./ร.ต.อ.ธนัช นครไธสง ร้อยเวร (สอบสวน) สภ.กระสัง รับแจ้งจากญาติผู้เสียชีวิต ว่าพบศพหลาน นอนคว่ำหน้าลอยริมอ่างเก็บน้ำห้วยสวาย ต.สองชั้น อ.กระสัง จึงแจ้งแพทย์เวร โรงพยาบาลอำเภอกระสัง และกู้ชีพเทศบาลตำบลสองชั้น เข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ บริเวณริมอ่างเก็บน้ำห้วยสวาย ฝั่งบ้าน สระเพลง หมู่ 13 ต.สองชั้น อ.กระสัง พบศพนาย สุเทพ เพราะดี อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41/1 ม.13 บ้านสระเพลง ต.สองชั้น อ.กระสัง ญาติได้นำขึ้นจากน้ำก่อนหน้านี้ สภาพศพไม่สวมเสื้อ ใส่กางเกงขาสั้น สีเขียว เนื้อตัวซีดเผือด คาดจมน้ำมาไม่ต่ำกว่า 2 ชม. ทางแพทย์เวรได้ตรวจสอบสภาพลำตัวไม่มีร่องรอยถูกทำร้ายแต่อย่างใด
สอบถาม นาย บุญมี โสภา อายุ 62 ปี ลุงของผู้เสียชีวิต เป็นคนพบศพคนแรก เล่าว่า ตนและผู้ตายพร้อมญาติประมาณ 4 คน ได้มาเฝ้าข้าวนาปรังที่หว่านไว้ในนาประมาณ 5 ไร่ซึ่งอยู่ติดริมอ่างเก็บน้ำ
ซึ่งตนและหลานพร้อมญาติได้เร่งสูบน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยสวายเข้านา เนื่องจากดินเริ่มแตกกลัวข้าวจะตาย จึงเปลี่ยนกับหลานให้เป็นคนเฝ้านา ส่วนตนและญาติที่เหลือกลับบ้านทำธุระ แต่เมื่อกลับมาที่นาอีกครั้ง พบหลานชายของตนเอง ลอยคว่ำหน้าอยู่ริมอ่าง ตนและญาติ 3-4 คน จึงรีบวิ่งไปอุ้มขึ้นมาจากริมอ่าง พบเสียชีวิตแล้วจึงโทรเรียบเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบดังกล่าว
นายบุญมี เล่าอีกว่า คาดว่าหลานจะลงน้ำเพื่อไปใส่ตาข่ายดักปลา เพื่อหาปลาไว้ทำอาหารเย็น แต่สภาพอากาศร้อน ประกอบกับผู้ตาย มีโรคประจำตัว ซึ่งอาจจะกำเริบ แล้วช็อกล้มลงจมน้ำตายดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สอบถามทางญาติไม่ติดใจการเสียชีวิต จึงให้กู้ชีพเทศบาลตำบลสองชั้น นำร่างผู้เสียชีวิตมอบให้ญาติทำพิธีทางศาสนาที่บ้านต่อไป
ข่าว-ภาพ วาทิตย์ แสนธุปี ผู้สื่อข่าว จ.บุรีรัมย์