สงขลา-สมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนภาคใต้ ออกแถลงการณ์โต้ข่าวใส่ร้ายโรงเรียนเอกชน “ทุจริตเงินอุดหนุน”

สงขลา-สมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนภาคใต้ ออกแถลงการณ์โต้ข่าวใส่ร้ายโรงเรียนเอกชน “ทุจริตเงินอุดหนุน” ร้องแม่ทัพภาค 4 ย้าย “พล.ต.จตุพรฯ” ออกนอกพื้นที่ สร้างความสับสนวุ่นวาย “ขู่”ฟ้องศาลปกครองคุ้มครองโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามใต้

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 8 เม.ย.ที่ทำการสมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนภาคใต้ อ.จะนะ จ.สงขลา นายขดตะรี บินเซ็น ประธานฯและกรรมการสมาพันธ์สมาคมโรงเรียนเอกชนภาคใต้ประมาณ 50 คน อ่านแถลงการณ์ตอบโต้สื่อมวลชน(ช่อง 7 สี) ที่เสนอข่าวกล่าวว่าโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ทุจริตเงินอุดหนุนที่รัฐสนับสนุนปีละหลายพันล้านบาท

“เม็ดเงินถูกใช้ไปในทางที่ผิดและบางส่วนถูกใช้สนับสนุนกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ เป็นสถานที่บ่มเพาะแนวคิดแบ่งแยกดินแดน เป็นสถานที่คัดเลือกบุคคลเข้าร่วมขบวนการ เป็นสถานที่ฝึกร่างกาย ก่อส่งไปฝึก RKK และเป็นสถานที่รวบรวมเงินบริจาคสมาชิกขบวนการในพื้นที่ และที่ร้ายที่สุดคือจัดการศึกษาไม่ได้คุณภาพ”

นายขดตะรีกล่าวว่า กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ อ้างว่าได้มีการตรวจพบหลักฐานการทุจริต เงินค้าตอบแทนครูสอนศาสนาในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม การทุจริตเงินบริหารจัดการโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามและทุจริตเงินช่วยเหลือนักเรียนในโรงเรียนเอกชนเป็นเงินอุดหนุนบุคลากรตามระเบียบกระทรวงศึกษา ทำให้รัฐได้รับความเสียหาย

นายขดตะรีกล่าวว่าทำให้โรงเรียนเอกชนสอนศาสนา 400 กว่าแห่งอยู่กันอยางหวาดผวา ซึ่งส่งผลกระทบทางด้านจิตใจบุคลากรและอาจจะกระทบต่อคุณภาพการศึกษาด้วย จึงขอให้ย้าย พล.ต.จตุพร กลัมพสุต รองแม่ทัพภาคที่ 4รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ออกจากพื้นที่ชายแดนภาคใต้ เพราะทำให้เกิดความสับสนและวุ่นวาย ทั้งหมดจะเข้าพบแม่ทัพภาค 4 เพื่อให้แม่ทัพภาค 4 ได้พิจารณาและดำเนินการ

นายมังโสด หมะเต๊ะ กรรมการสมาพันธ์ฯกล่าวว่าทำให้โรงเรียนเอกชนขอให้สื่อมวลชนมีจรรยาบรรณในการนำเสนอข่าว นำเสนอข่าวรอบด้านเพราะเป็นมิติความมั่นคงและกระทบต่อกระบวนการสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทางสมาพันธ์ฟ้องร้องดำเนินคดีทางแพ่งและอาญากับสื่อและบุคคลที่นำข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์

นายมังโสดกล่าวว่าขอให้หน่วยงานรับผิดชอบ ให้เข้าตรวจสอบอย่างเป็นธรรมทุกสังกัด ไม่เฉพาะเจาะจงโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ด้วยความไม่โปร่งใสภายใต้กฏหมายไทยและต้องเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฏหมาย ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน ดังนั้นคำสั่งใดที่ไม่เป็นธรรมให้ยกเลิกและสมาคมสมาพันธ์ฯจะยื่นฟ้องศาลปกครองเพื่อสั่งคุ้มครองชั่วคราว

นายมังโสดกล่าวว่าดำเนินคดีและสั่งย้ายต่อผู้บริหารระดับสูงของหน่วยความมั่นคง ที่ใช้อำนาจที่ไม่ชอบด้วยกฏหมายและละเมิดสิทธิมนุษยชนโรงเรียนสอนศาสนาอิสลาม(ซ้ำซาก) เพื่อจะไม่เป็นปัจจัยเอื้อทำให้ปัญหาไฟใต้ลุกลามต่อไป สมาคมฯยินดีร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการแก้ปัญาและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ผ่านมิติการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม

นายมังโสดกล่าวว่าพิจารณาใหม่เรื่องกฎระเบียบของรัฐเกี่ยวกับเงินอุดหนุนรายหัวที่เหมาะสมกับโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ซึ่งแตกต่างจากโรงเรียนสามัญ พร้อมทั้งหลักเกณฑ์เกี่ยวกับเงินเสี่ยงภัยที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงของจำนวนบุคลากร เพราะว่าความเป็นจริงในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามมีการเรียนการสอน 2 หลักสูตรคือสามัญศึกษาและอิสลามศึกษา จะต้องจ้างบุคลากรทั้งศาสนาและสามัญ จึงทวีคูณ 2 เท่า

“ให้จัดตั้งสภาการศึกษาชายแดนภาคใต้ ซึ่งเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมกับการจัดการศึกษาแทนที่ที่หรือคู่ขนานกับกระทรวงศึกษาธิการส่วนหน้า”นายมังโสดกล่าว

ภาพ/ข่าวมณีรัตน์ แก้ววิเชียร ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสงขลา