รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่ จ.นราธิวาส ไกล่เกลี่ยหนี้ช่วยชาวบ้านในงาน “มหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน ครั้งที่ 22 ที่จังหวัดนราธิวาส และยุติธรรมพบประชาชน”

นราธิวาส/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่ จ.นราธิวาส ไกล่เกลี่ยหนี้ช่วยชาวบ้านในงาน “มหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน ครั้งที่ 22 ที่จังหวัดนราธิวาส และยุติธรรมพบประชาชน”

วันที่ 6 มิ.ย. 65 ณ ลานพิกุล มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดงาน “มหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน ครั้งที่ 22 จ.นราธิวาส และยุติธรรมพบประชาชน” พร้อมด้วย นายไพโรจน์ จริตงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ รองอธิบดีกรมบังคับคดี รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ รองอธิบดีกรมราชทันฑ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ตลอดจนข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และประชาชน เข้าร่วมงาน โดยก่อนเข้างานมีการคัดกรองโควิด-19 อย่างเข้มงวด
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า โครงการไกล่เกลี่ยหนี้สิน เพื่อบรรเทาความทุกข์ร้อนของประชาชน
“ผมอยากเชิญชวนลูกหนี้ทุกคนมาร่วมงาน อย่าไปกลัวการแก้หนี้ ไม่ต้องหนี เราจะได้หลุดพ้นจากกองทุกข์ จะได้หายเครียด และมีสติเต็มร้อยไปประกอบอาชีพใหม่ และการมาร่วมงานมีสิทธิพิเศษมากมาย ทั้งการได้ลดเงินต้น ลดดอกเบี้ยและเบี้ยปรับ สถาบันการเงินทุกแห่งพร้อมที่จะช่วยเหลือทุกคน
นี่คือนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่มอบหมายให้กระทรวงยุติธรรมช่วยเหลือประชาชน เราพร้อมที่จะช่วยเหลือทุกท่าน ทุกปัญหาที่ทุกท่านยื่นเรื่องเข้ามา เราพร้อมที่จะช่วยแก้ไข ไม่มีการหนีปัญหาอย่างแน่นอน”

พร้อมกล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้เราได้มาไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือนที่นราธิวาส ซึ่งจากการที่ดำเนินการมาตั้งแต่ช่วงเช้า ในกรณีคนที่ไม่ใช่ 2 กลุ่ม เป็นกลุ่มที่กำลังจะถูกฟ้อง และกลุ่มที่กำลังจะถูกยึดทรัพย์ ในวันนี้คนที่ถูกฟ้องจะถูกยึดทรัพย์สิน แต่เรามาช่วยไกล่เกลี่ยให้สามารถอยู่ได้และกลับไปสู้งานใหม่ และคนที่ยังสามารถส่งหนี้ได้จะไม่เสียเครดิตในเรื่องสถานะทางการเงิน

ซึ่งจังหวัดนราธิวาสมีเป้าหมาย 5,557 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากพอสมควร อย่างไรก็ตามคิดว่าเราจะสามารถผ่านพ้นไปได้ด้วยกัน ในส่วนของบุคคลที่ยังไม่ได้มาไกล่เกลี่ยนั้นทุกหน่วยงานมีการยืดหนี้ให้ โดยทาง (กยศ.)มีการลดเบี้ยปรับให้ 80% แต่ถ้าไม่ได้มาในวันนี้ก็สามารถไปที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดนราธิวาสได้ และในส่วนของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รัฐบาลจะทำให้ยาเสพติดลดน้อยถอยลงอย่างเห็นได้ชัดเพราะเรามีการแก้กฎหมายใหม่ โดยเราได้หรือกฎหมายเก่าทั้งหมด 24 ฉบับเรื่องยาเสพติด โดยเขียนประมวลกฎหมายใหม่ ยาเสพติดให้มีฉบับเดียวและมีการใช้กฎหมายใหม่

สำหรับงานมหกรรมไกล่เกลี่ยฯ ในครั้งนี้ มีเป้าหมายประชาชนเข้าร่วมงาน 5,557 ราย ทุนทรัพย์ทั้งสิ้น 772 ล้านบาท และมี กยศ. พร้อมด้วยสถาบันการเงินที่เข้าร่วมงาน จำนวน 4 แห่ง คือ 1. ธนาคารออมสิน 2. ธกส. 3. ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) 4. ธนาคารอิสลาม

นอกจากนี้ ได้มีพิธีมอบเงินเยียวยา จำนวน 14 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,087,969 บาท พิธีมอบป้ายศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน จำนวน 13 ศูนย์ และการจัดนิทรรศการเผยแพร่ความรู้บทบาทภารกิจของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เข้าร่วมงาน อีกด้วย