สงขลา/สะเดา ชาวบ้านคลองล่าปัง ร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ สงสัยออกเอกสารสิทธิ์ ทับบึงสาธารณะ 7 ไร่ ปรับพื้นที่ถมดิน และเปลี่ยนทางน้ำไหล เตรียมก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อย

สงขลา/สะเดา ชาวบ้านคลองล่าปัง ร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ สงสัยออกเอกสารสิทธิ์ ทับบึงสาธารณะ 7 ไร่ ปรับพื้นที่ถมดิน และเปลี่ยนทางน้ำไหล เตรียมก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อย
จากการที่ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ บ้านคลองล่าปัง ม.2 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา ตามที่ชาวบ้านร้องเรียน พบว่าริมถนนกาญจนวนิชย์ ขาออกไป ด่านพรมแดนสะเดา ได้มีการติดตั้งป้ายก่อสร้างสถานไฟฟ้าสะเดา และมีการปรับพื้นที่ถมดิน และเปลี่ยนทางน้ำไหล ไปชิดริมแดนฝั่งทางทิศใต้ มุ่งตรงไปชนถนนกาญจนวนิขย์ ฝั่งทางทิศตะวันตก และหักศอกลงไปทางทิศเหนือ ตามยาวถนน ระยะทางประมาณ 50 เมตร เพื่อให้น้ำไหลลงท่อระบายน้ำลอดใต้ถนนกาญจนวนิชย์ ฝั่ง มัสยิด ซูปฮานียะห์ (มัสยิด บ้านคลองล่าปัง) ที่อยู่ตรงกันข้าม

นาย หมีด ขุนรงค์ ชาวบ้านคลองล่าปัง บอกว่า ก่อนที่จะมาเป็นตำบลสำนักขาม จุดที่บึงดังกล่าวเป็นพื้นที่ ม.6 ต.สำนักแต้ว อ.สะเดา จ.สงขลา เมื่อประมาณปี 2520 ที่ดังกล่าวเป็นบึงน้ำสาธารณะ เป็นไม่เคยแห้ง มีปลาชุกชุม ชาวบ้านละแวกใกล้เคียงลงหาปลา ลงเบ็ด นำไปประกอบอาหาร ซึ่งปกติลำห้วยหรือลำธาร จะไหลลงมาจากทิศตะวันออกด้านบนลงมากลางบึง ซึ่งมีความกว้างมาก หญ้านานๆชนิดขึ้นเต็มบึง แต่ปัจจุบัน บึง แห่งนี้ถูกปรับถมดินมาเรื่อยๆจากเจ้าของที่ดิน ที่อยู่ติด บึง และช่วงนี้ บึง ดังกล่าวได้ถูกปรับถมดิน และย้ายลำห้วยไปไว้ด้านข้าง เหลือความกว้างไม่ถึง 2 เมตร นาย มานิตย์ ประดิษฐ์ ชาวบ้านคลองล่าปัง บอกว่า ตนเป็นเกิดที่ตำบลสำนักแต้ว ปัจจุบัน อายุ 50 ปีเศษ ตน และชาวบ้าน เคยไปหาปลาในบึง ซึ่งน้ำไม่เคยแห้ง แต่เมื่อเจ้าของสวนยางปรับพื้นที่รุกและถมบึง ขับรถผ่านก็สงสัยว่าปรับทำอะไร คิดว่าการถมที่อนาคตต้องมีปัญหาเพราะเป็นแหล่งกักเก็บน้ำ อยากให้มีการตรวจสอบหากเป็นที่สาธารณะ ควรเก็บไว้ให้ชุมชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน 

 

ในเรื่องนี้ นาย ชวกิจจ์ สุวรรณคีรี นายอำเภอสะเดา ได้รับเรื่องการบุกรุก บึงสาธารณะ ตามที่ชาวบ้านร้องเรียน ได้สั่งการให้ นาย ธีรเดช จันมณี ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง และนาย สุบัญฑิตย์ ไชยแก้ว ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกัน ลงพื้นที่ตรวจสอบ บึงสาธารณะ ตามที่มีชาวบ้าน คลองล่าปัง ม.2 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา พบว่าเจ้าของมีเอกสารสิทธิ์เป็นโฉนดถูกต้อง ทางอำเภอ จึงไม่ได้ตรวจสอบเพิ่มเติม ถึงเอกสารสิทธิ์ นส.3 ก่อนที่จะมาออกเป็นโฉนด
จากการสอบถามทราบว่า พื้นที่ บึง ดังกล่าวซื้อขายกันในราคาไร่ละ 4 ล้านบาท จำนวน 7 ไร่ ชาวบ้านจึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบดังนี้1.ตรวจสอบว่าเป็นการออกโฉนดทับลำน้ำสาธารณะ หรือไม่
2.โดยการตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ นส.3 ก่อนที่จะออกเป็นโฉนด ย้อยหลังไปเมื่อปี 2520
3.หากพื้นที่ บึง เป็นที่สาธารณะต้องปรับให้ไว้ใช้กักเก็บน้ำช่วงหน้าฝน เพราะจะลดมวลน้ำที่ไหลจะท่วมขึ้นบนถนนกาญจนวนิชย์
4.หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรร่วมตรวจสอบแหล่งน้ำธรรมชาติ ไว้เป็นมรดกของชุมชน เนื่องจากในปัจจุบัน นายทุนบุกรุกปรับ ลำห้วย ลำคลอง บึง สาธารณะ ไปใช้ประโยชน์ทางธุรกิจ โดยมีเจ้าหน้าที่ของรัฐรู้เห็นเป็นใจ
จากการที่ได้เข้าไปตรวจสอบแผนที่ทางอากาศ ภาพถ่ายทางดาวเทียมพบว่า พื้นที่ดังกล่าวมีร่องรอย ลำห้วย ลำธาร และบึง น้ำขนาดใหญ่จริง แต่ถูกปรับถมมาเรื่อยๆ ภาพตามลิงค์ … https://www.google.co.in/maps/@6.5569562,100.4132322,3a,75y,103.89h,84.24t/data=!3m6!1e1!3m4!1sZyqdMMYmKvh3uXTAFTlUEA!2e0!7i13312!8i6656?hl=th
เสียง 2.นาย หมีด ขุนรงค์ ชาวบ้านคลองล่าปัง……………………………………………………………………………………………..
เสียง 1.นาย มานิตย์ ประดิษฐ์ ชาวบ้านคลองล่าปัง…………………………………………………………………………………….
คนชายแดน ผู้สื่อข่าวอำเภอสะเดา รายงาน
(มีคลิปครับ)