สุราษฎร์ธานี//คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการบริหารจัดการปาล์มน้ำมันอย่างเป็นระบบ สภาผู้แทนราษฎร ร่วมประชุมแนวทางบริหารจัดการปาล์มน้ำมัน ร่วม 6 จังหวัดภาคใต้ หามาตรการควบคุมการรับซื้อปาล์มคุณภาพ ยกระดับราคาทั้งระบบ

สุราษฎร์ธานี//คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการบริหารจัดการปาล์มน้ำมันอย่างเป็นระบบ สภาผู้แทนราษฎร ร่วมประชุมแนวทางบริหารจัดการปาล์มน้ำมัน ร่วม 6 จังหวัดภาคใต้ หามาตรการควบคุมการรับซื้อปาล์มคุณภาพ ยกระดับราคาทั้งระบบ

รายงาน : พจน์ คำจันทร์

บ่ายวันนี้ (23 ม.ค.66) ที่ห้องเมืองคนดี ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้การต้อนรับ นายวีระกร คำประกอบ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการบริหารจัดการปาล์มน้ำมันอย่างเป็นระบบ สภาผู้แทนราษฎร และคณะ ในการหารือแนวทางการบริหารจัดการปาล์มน้ำมันและแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตทั้งระบบ ร่วมกับ ผู้แทนจาก 6 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตปาล์มน้ำมัน แถวหน้าของประเทศ ได้แก่ สุราษฎร์ธานี กระบี่ ชุมพร นครศรีธรรมราช ตรัง และพังงา เพื่อหามาตรการร่วมกันในการบริหารจัดการปาล์มน้ำมันทั้งระบบ เพื่อป้องกันปัญหาการติดคิวรับซื้อยาว จนผลผลิตเสียหาย เหมือนช่วงหยุดยาวปีใหม่ 2566 รวมถึง กำหนดมาตรการควบคุมการรับซื้อปาล์มน้ำมันคุณภาพ เพื่อยกระดับเปอร์เซ็นต์การสกัดน้ำมัน ให้เกิน 18% ป้องกันปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ เพิ่มรายได้และมูลค่าการสกัดน้ำมันปาล์มทั้งระบบ โดยเทียบเคียงจากมาตรการแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ สุราษฎร์ธานี โมเดล เมื่อปี 2561
ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ในปี 2561 เป็นช่วงที่เกิดวิกฤตราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ เกษตรกร ได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก จึงได้บูรณาการหน่วยงานทั้ง

กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม ฝ่ายปกครอง และใช้อำนาจของกอ.รมน. และ มณฑลทหารบกที่ 45 ในการกำกับดูแล การรับซื้อปาล์มสุก ได้คุณภาพ ทำให้สามารถยกระดับราคารับซื้อผลปาล์มได้เกิน 18% เพิ่มมูลค่าให้ราคาปาล์มน้ำมันได้ตันละ 300 บาท คิดเป็นรายได้ถึงเกษตรกรกว่า 1,700 ล้านบาท แต่ปัจจุบัน ยังไม่มีกฎหมาย หรือ ระเบียบที่ชัดเจน ในการกำกับดุแลเรื่องดังกล่าว
ด้าน นายวีระกร คำประกอบ ระบุว่า คณะกรรมาธิการ ตลอดจน ผู้เข้าร่วมประชุม เห็นพ้องต้องกันว่าจะต้องมีระเบียบข้อบังคับเพื่อกำกับดูแลการรับซื้อ ที่ลานเท ซึ่งคณะกรรมธิการฯ จะเร่งผลักดันให้ คณะกรรมการมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ เร่งออกกฎระเบียบ เพื่อให้แต่ละจังหวัดนำไปบังคับใช้ อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

ที่มา : ส.ปชส.สฏ.