นายอำเภอโก-ลกใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวนำรถยนต์คนไทยที่ติดค้างในมาเลย์จากพิษโควิด สู่มือเจ้าของหลังพบเดือดร้อนหนักต้องสูญเงินจ่ายค่าเช่าจอดรถแพง

นราธิวาส/ภาพ/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ

นายอำเภอโก-ลกใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวนำรถยนต์คนไทยที่ติดค้างในมาเลย์จากพิษโควิด สู่มือเจ้าของหลังพบเดือดร้อนหนักต้องสูญเงินจ่ายค่าเช่าจอดรถแพง

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 11 ส.ค. 63 นายไพโรจน์ จริตงาม รอง ผวจ.นราธิวาส ได้เป็นประธานในการมอบกุญแจรถยนต์ให้กับประชาชน ซึ่งเป็นเจ้าของรถยนต์ที่ติดค้างอยู่ในรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย จากผลกระทบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด 19 ที่รัฐบาลประเทศมาเลเซีย ได้ออกกฏเหล็กและได้ผ่อนปรนให้เฉพาะคนไทยที่ตกค้างในรัฐต่างๆของประเทศมาเลเซีย เดินทางกลับประเทศเท่านั้น ส่วนรถยนต์เจ้าของรถยนต์ไม่สามารถนำเข้ามาในประเทศได้ โดยส่วนใหญ่ชาวบ้านจะนำไปจอดเสียค่าเช่าที่รับฝากรถ ซึ่งแต่ละแห่งจะเก็บค่าเช่าตกวันละ 70 ถึง 100 บาท และได้ล่วงเลยมาเป็นเวลา 4 เดือน ที่ชาวบ้านต้องจ่ายเป็นค่าเช่ารถยนต์คนละ 7,000 ถึง 10,000 บาท ซึ่งส่วนใหญ่กลับเข้าประเทศก็ไม่มีงานทำ

ต่อมานายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโก-ลก จึงได้ใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ระดับท้องถิ่นฝ่ายไทยกับฝ่ายประเทศมาเลเซีย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น จนในที่สุดฝ่ายประเทศมาเลเซียยอมผ่อนปรน ให้รถยนต์ของคนไทยที่ตกค้างอยู่ในเฉพาะรัฐกลันตัน นำกลับสู่ประเทศไทยได้ โดยใช้มาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ซึ่งเจ้าของรถยนต์ต้องนำเอกสารหลักฐานต่างๆเกี่ยวกับรถพร้อมกุญแจ เงินค่าเช่าที่จอดรถ ผ่านทางเจ้าหน้าที่ปกครองอำเภอสุไหงโก-ลก เพื่อนำไปให้เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรเมืองรันตูปันยัง นำไปตรวจสอบเพื่อความถูกต้อง และให้เจ้าหน้าที่ไทยต้องสวมชุด PPE หรือ ชุดป้องกันการติดเชื้อ ไปขับรถยนต์ของชาวบ้านที่ยื่นความประสงค์กลับไทย ขับออกมาจากด่านพรมแดนเมืองรันตูปันยัง รัฐกลันตัน เมื่อข้ามฝั่งด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก รถยนต์คันดังกล่าวจะต้องผ่านการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ พร้อมจอดตากแดดที่ด่าน 3 วัน เจ้าของรถยนต์จึงมารับรถยนต์ด้วยตนเองเพื่อขับกลับภูมิลำเนา ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่ขับรถยนต์ของชาวบ้านกลับเข้ามาฝั่งไทยนั้น ต้องถูกกักตัวดูอาการ 14 วัน ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข

ซึ่งในวันนี้ถือว่าเป็นวันที่ 2 ที่ทางการประเทศมาเลเซีย ผ่อนปรนให้รถยนต์ของชาวไทยกลับออกมาจากประเทศ ซึ่งมีจำนวน 14 คัน ส่วนวันแรกมี จำนวน 15 คัน ซึ่งทางการรัฐกลันตันจะผ่อนปรนให้คนไทยนำรถยนต์เข้าประเทศได้จนถึงวันที่ 31 ส.ค. 63 ซึ่งขณะนี้มีคนไทยแจ้งความประสงค์จะนำรถยนต์เข้าประเทศจนถึงวันที่ 18 ส.ค. 63 แล้ว จำนวน 111 คัน ซึ่งมีภูมิลำเนาทั้งกรุงเทพฯ สงขลาและ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

ด้าน นายนิโซ๊ะ สะมะแอ 1 ในเจ้าของรถยนต์ที่ตกค้างในรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย กล่าวว่า ตนดีใจที่ทางการไทยให้ความช่วยเหลือชาวบ้านตลอดรอดฝั่ง แม้กระทั่งช่วยประสานนำรถยนต์กลับเข้ามาใช้ในประเทศ มิเช่นนั้นต้องเสียค่าเช่าที่จอดรถไปอีกไม่รู้เท่าไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลัวรถยนต์ได้รับความเสียหาย เมื่อจอดอยู่ในต่างประเทศเป็นเวลานาน ซึ่งถือว่าสมเป็นข้าราชการที่มีใจช่วยเหลือประชาชนอย่างแท้จริง