วัดปันเสา สืบฮีตสานฮอย ป๋าเวณีบ่าเก่าพิธีย้ายผีเสื้อวัด สักการะพระเจ้าแสงคำเมือง

วัดปันเสา สืบฮีตสานฮอย ป๋าเวณีบ่าเก่าพิธีย้ายผีเสื้อวัด สักการะพระเจ้าแสงคำเมือง ฟื้นฟูวัฒนธรรมชาติพันธิ์ลัวะ สายบุญเที่ยวแบบอิ่มบุญชอบเข้าวัดไหว้พระแล้วล่ะก็ ภายในตัวเมืองเชียงใหม่ มีวัดตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก และแต่ละวัดก็มีความเก่าแก่คู่เมืองเชียงใหม่

มีความน่าสนให้ไปเที่ยวชมและกราบไหว้ขอพรพระกัน และหนึ่งในวัดที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก ที่เชิญชวนให้ไปสักการะขอพรและสัมผัสกับความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับความเชื่อ ของผู้ที่มีจิตศรัทธาในเรื่องของพระธาตุและศิลปกรรมชนเผ่าลัวะในวันนี้ผู้สื่อข่าวได้เข้าร่วมพิธีย้ายหอผีเสื้อวัดปันเสามีศรัทธาสาธุชนชาวพุทธ ร่วมพิธีจำนวนมาก ซึ่งทาง พระอาจารย์ มหาสง่า ไชยวงศ์ เจ้าอาวาสวัดผาลาด เจริญพรว่า เพื่อเป็นการสืบฮีตสานฮอย ป๋าเวณีบ่าเก่าแต่ดั้งเดิมเลามา ทางวัดปันเส่า อ.เมือง เชียงใหม่ ได้ประกอบพิธีตั้ง+ยก หอเสื้อวัด หรือถ้าเปรียบกับบ้านเรือนทั่วไป ก็คือ ศาลเจ้าที่ แต่ต่างกันที่ของวัดที่เป็นหอ หรือศาล เป็นที่ตั้งหอเสื้อวัด เสื้อวัดก็คือ ดวงวิญญาณของพระเถระ หรือเจ้าที่ เจ้าทาง ที่ดูแลบริเวณวัดวาอาราม ให้อยู่รอดปลอดภัย อยู่ได้อย่างร่มเย็นเป็นสุข ส่วนความเชื่อของคนรุ่นเก่า จะสร้างมิติความเชื่อไปถึงการอยู่อาศัยของพระสงฆ์สามเณร ว่าเสื้อวัดจะคอยดูแลให้ผู้อาศัยอยู่ในวิสุงคามสีมานี้ ปกครองกันได้อยู่ในศีลในธรรม และเตร่งครัดจ่อพระธรรมวินัยตลอดเวลา เหมือนจะเป็นความเชื่อที่แฝงกุศโลบายเอาไว้ ป้องกันไม่ให้พระเณรกระทำการอันเป็นความผิดทั้งปวง ดังมีที่มาจากพระชั้นผู้ใหญ่จะคอยตักเตือนพระเณรลูกวัดเสมอ มาทำอะไรไว้ไม่ดีจะโดนเสื้อวัด ทำร้ายให้เจ็บป่วย นั่นเอง ความเชื่อนี้ยังแผ่มาถึงชาวบ้าน ที่เป็นศรัทธาของวัดแต่ละวัด ก็จะเคารพยำเกรงต่อความขลัง ความศักดิ์สิทธิ์ของเสื้อวัด จนทำให้ไม่มีใครกล้าหยิบฉวย สิ่งของใดๆ ในวัดนั้นๆ เพราะเกรงกลัวว่าเสื้อวัดจะทำอันตราย ให้ถึงวิบัติความเชื่อ จารีตประเพณีเสื้อวัดจึงควรสานต่อให้ลูกหลานชาวพุทธได้รู้ถึงความศรัทธาเเละเคารพเสื้อวัด ตลอดไปนอกจากนี้ทางวัดได้สืบสานวัฒนธรรม ชนเผาลัวะ ที่เคยอาศัยอยู่ในเมืองมาก่อน มีวัฒนะรรมของชนเผาลัวะจัดแสดงบริเวณด้านหน้าวัด มีศิลปหัตถกรรมเสื้อผ้า มาให้ชมและสร้างรายได้ให้กับชนชาติพันธุ์ ชาวลัวะวัดที่ว่านี้คือ “วัดปันเสา” ตั้งอยู่ภายในศูนย์มาลาเรีย เขต 2 จ.เชียงใหม่ เป็นวัดเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมากล่าวไว้ว่า เมื่ออดีตมีชื่อว่า วัดปันเส่า หรือว่า พันเส่า ( คำว่า เส่า เป็นภาษาล้านนา หมายถึงเตาสำหรับหลอมโลหะ คำว่า ปัน เป็นการนับจำนวนของชาวล้านนา หมายถึง จำนวน 1,000) ตามประวัติศาสตร์ที่พบจากจารึกต่าง ๆ พบว่า วัดปันเสา เป็นวันที่สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์มังราย เริ่มก่อสร้างในรัชสมัยของพญาผายูถึงรัชสมัยของพญากือนาโดยมีร่องรอยโบราณคดีที่เห็นได้จากภายนอก คือ เจดีย์ทรงกลมแบบเชียงใหม่ ที่ได้รับอิทธิพลจากสุโขทัย ประกอบด้วยฐานเป็นหน้ากระดานสี่เหลี่ยมประมาณสามชั้น รองรับด้วยฐานบัวย่อเก็จลูกแก้ว ถัดขึ้นไปเป็นหน้ากระดานกลมประมาณ 3 ชั้น รองรับมาลัยเถาที่เป็นแบบบัวคว่ำหน้ากระดาน 3 ชั้น แบบสุโขทัย องค์ระฆังใหญ่ที่บังลังก์เป็นสี่เหลี่ยมยอกเป็นปล้องไฉนแบบสุโขทัย วัดปันเส่ายังมีร่องรอยโบราณคดีที่เห็นได้จากภายนอก คือ เจดีย์ทรงกลมแบบเชียงใหม่

ที่ได้รับอิทธิพลจากสุโขทัย ประกอบด้วยฐานเป็นหน้ากระดานสี่เหลี่ยมประมาณสามชั้น รองรับด้วยฐานบัวย่อเก็จลูกแก้ว ถัดขึ้นไปเป็นหน้ากระดานกลมประมาณ 3 ชั้น รองรับมาลัยเถาที่เป็นแบบบัวคว่ำหน้ากระดาน 3 ชั้น แบบสุโขทัย องค์ระฆังใหญ่ที่บังลังก์เป็นสี่เหลี่ยมยอกเป็นปล้องไฉนแบบสุโขทัย
วัดปันเสาถูกทิ้งรกร้างมานาน จนกระทั่งเมื่อปีพ.ศ. 2550 ทางศูนย์มาลาเรีย เขต 2 เชียงใหม่ ได้บอกคืนพื้นที่ของวัดให้กับสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ ทางคณะสงฆ์จึงได้มอบหมายให้พระเทพวรสิทธาจารย์ รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพฯ ประธานมูลนิธิพระบรมธาตุดอยสุเทพ ฟื้นฟูให้เป็นวัดที่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อที่จะสร้างเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมสำหรับศรัทธาประชาชนโดยทั่วไป และสร้างเป็นสถานที่สำหรับรองรับพระสงฆ์ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดเพื่อมารับการรักษาพยาบาลที่ตึกสงฆ์ของโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ แต่ไม่มีที่พักก็จะใช้สถานที่แห่งนี้เป็นที่พักชั่วคราว และจะสร้างถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙และภายในวัดยังมีวิหารจันทรสถิตมหาทานบารมีศรีชัยมงคลเป็นที่ประดิษฐาน “พระพัฒนนพบุรีศรีล้านนาประชานาถ” หรือ “พระเจ้าแสงคำเมือง” เป็นพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ และดลบันดาลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของปวงชน ชาวไทย ได้ทรงหายจากพระอาการประชวรพระเจ้าแสงคำเมือง ถือว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีความศักดิ์สิทธ์ โดยมีความเชื่อที่ว่าหากว่าได้มากราบไหว้จะช่วยให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ได้ อีกทั้งภายในวิหารยังมีตู้จัดแสดงพระธาตุต่างๆ จำนวนมากมายที่เสด็จมาเอง ให้ได้สักการะขอพร ถือว่าเป็นมงคลชีวิตอย่างยิ่งหากได้มากราบบูชาพระธาตุในวัดแห่งนี้

….ฟงหวิน ศักดิ์อัศวิน….เชียงใหม่