ผู้อพยพยังทะลักไม่หยุดล่าสุดเพิ่มพื้นที่อพยพอีกสองจุดพื้นที่แม่สะเรียง

ผู้อพยพยังทะลักไม่หยุดล่าสุดเพิ่มพื้นที่อพยพอีกสองจุดพื้นที่แม่สะเรียง

ล่าสุดสถานการณ์การสู้รบระหว่างทหารรัฐบาลพม่า กับกองกำลังผสมชุนกลุ่มน้อยคะยา ตามแนวชายแดนไทยด้านอำเภอแม่สะเรียงและอำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน เขตประเทศพม่า และล่าสุดผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่ามีราษฎรชาวเมียนมาสัญชาติไทใหญ่และกะเหรี่ยง ได้พากันอพยพหลบหนีภัยจากการสู้รบเข้ามาในเขตประเทศไทยทางด้านพื้นที่อำเภอแม่สะเรียงจำนวน 2 จุด ได้แก่ที่บ้านอูรุ หมู่ที่ 4 ตำบลแม่คง จำนวน 206 คน และที่บ้านจอปร่าคี หมู่ที่ 9 ตำบลแม่คงจำนวน 483 คน ทำให้พื้นที่พักรอความปลอดภัยเพิ่มเป็น 4 จุด
ตามแถลงการณ์ของศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา จังหวัดแม่ฮ่องสอน ฉบับที่ 14 ลงวันที่ 25 มิถุนายน 2566ว่า ยังคงมีการสู้รบกันในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านด้านตรงข้ามกับบ้านเสาหิน อำเภอแม่สะเรียง และที่ด้านตรงข้ามกับบ้านพะแข่หมู่ที่ 3 ตำบลแม่กี๊ อำเภอขุนยวม ทำให้ปัจจุบันยังคงมีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาที่พะวงกับสถานการณ์การสู้รบ เดินทางเข้ามาในพื้นที่ปลอดภัยที่ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในขณะนี้ได้แยกพื้นที่รองรับไว้เพิ่มขึ้น 4 แห่ง จากเดิมที่มีเพียง 2 แห่ง คือ ที่บ้านเสาหิน อำเภอแม่สะเรียง มีอยู่ 3,270 คน ที่บ้านพะแข่ ตำบลแม่กี๊ อำเภอขุนยวม มีจำนวน 839 คน ที่เพิ่มมาใหม่คือพื้นที่บ้านอูนุ หมู่ที่ 4 ตำบลแม่คง อำเภอแม่สะเรียง มีอยู่จำนวน 206 คน และอีกที่คือที่บ้านจอปร่าคี หมู่ที่ 9 ตำบลแม่คง อำเภอแม่สะเรียง มีจำนวน 483 คน รวมจนถึงวันนี้มียอดทั้งสิ้น 4,798 คน
ขณะเดียวกันการบริจาคสิ่งของเพื่อความช่วยเหลือผู้อพยพของผู้ใจบุญก็หลั่งไหลกันร่วมบริจาคอย่างไม่ขาดสาย สิ่งที่ต้องการมากที่สุดข้าวสาร น้ำบริโภค ผ้าห่ม มุ้ง ฯ เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา นายปกรณ์ จีนาคำ ส.ส.ใหม่ถอดด้าม ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมทีมงานร่วมกับสะพานบุญครูหนึ่ง (ผู้อำนวยการส่วนการศึกษาเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน) ได้เดินทางไปบริจาคสิ่งของยังศูนย์พักรอความปลอดภัยชั่วคราวบ้านพะแข่ หมู่ที่ 3 ตำบลแม่กิ๊ อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยผ่านทางศูนย์ประสานงานส่วนหน้าในพื้นที่ชั่วคราวบ้านพะแข่ ตำบลแม่กิ๊ สถานการณ์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย. เมื่อเวลา 07.00 น.ของวันที่ 26 ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานจากแหล่งข่าวว่าจะมีผู้อพยพเดินทางเข้ามาทางช่องทางบ้านพะแข่เพิ่มมาอีกประมาณ 90 คน ส่วนข้าราชชั้นผู้ใหญ่ของทางการเมียนมาที่ได้อพยพเพื่อความปลอดภัยเข้ามาทางช่องทางบ้านพะแข่ และพักรวมอยู่ที่ศูนย์พักรอเพื่อความปลอดภัยชั่วคราวบ้านพะแข่นั้น ทางการความมั่นคงของไทย นำโดยชุดเฉพาะกิจสิงหนาทที่ 17 ม่อนตะแลง ได้นำบุคคลทั้งหมดจำนวน 27 นายส่งผ่านทางช่างทางอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพื่อกลับสู่มาตุภูมิเมียนมาต่อไป.

เกียรติศักดิ์ รักสัตย์ / เกียรติยศ รักสัตย์ ทีมข่าวภูมิภาคประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน Cr.แหล่งข่าวที่เชื่อถือได้

ในขณะที่วันนี้ (วันที่ 25 มิถุนายน 2566) นายปกรณ์ จีนาคำ สส.จังหวัดแม่ฮ่องสอนเขต 1 ได้เดินทางร่วมกับเครือข่ายสะพานบุญครูหนึ่ง นำสิ่งของบรรเทาทุกข์กว่า 6 คันรถ ได้เดินทางเข้าไปยังพื้นที่พักรอของที่พักพิงผู้หลบหนีภัยการสู้รบบ้านพะแข่ หมู่ที่ 3 ตำบลแม่กี๊ อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมีนายณรงค์พัชญ์ นาคทรัพย์ นายอำเภอขุนยวม ได้รายงานถึงความคืบหน้าของการให้การดูแลผู้หนีภัยการสู้ในพื้นที่มียอด ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 839 คน ในขณะนี้มีทางฝ่ายปกครองให้การดูแลร่วมกับทหาร ตชด. และองค์กรปกครองในพื้นที่ ซึ่งได้จัดพื้นที่พักรวมกันอยู่ห่างจากพื้นที่รับสิ่งของบริจาคออกไปราว 1.5 กิโลเมตร ทั้งนี้เพื่อเป็นการจัดระเบียบ ดูแลสุขอนามัยและป้องกันโรคด้วย สิ่งของที่ยังคงเปิดรับบริจาคและต้องการเป็นอย่างมากก็คือข้าวสาร น้ำมันพืช อาหารสำเร็จรูป ผ้ายางกันฝน อุปกรณ์ทำครัว ผ้าอนามัยและเวชภัณฑ์ต่างๆ ส่วนของบริจาคประเภทเสื้อผ้านั้นก็งดรับบริจาคก่อน เนื่องจากไม่มีพื้นที่เก็บเพียงพอ
ส่วนแถลงการณ์ของศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมาจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้แถลงในวันนี้ ( วันที่ 25 มิถุนายน 2566) ว่า ยังคงมีการสู้รบในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านด้านตรงข้ามกับบ้านเสาหิน อำเภอแม่สะเรียง และที่ที่ด้านตรงข้ามกับตำบลแม่กี๊ อำเภอขุนยวม ทำให้ปัจจุบันยังคงมีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาที่พะวงกับสถานการณ์การสู้รบ เดินทางเข้ามาในพื้นที่ปลอดภัยที่ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในขณะนี้ได้แยกพื้นที่รองรับไว้เพิ่มขึ้น 4 แห่ง จากเดิมที่มีเพียง 2 แห่ง คือ ที่บ้านเสาหิน อำเภอแม่สะเรียง มีอยู่ 3,270 คน ที่บ้านพะแข่ ตำบลแม่กี๊ อำเภอขุนยวม มีจำนวน 839 คน ที่เพิ่มมาใหม่คือพื้นที่บ้านอูนุ หมู่ที่ 4 ตำบลแม่คง อำเภอแม่สะเรียง มีอยู่จำนวน 206 คน และอีกที่คือที่บ้านจอปร่าคี หมู่ที่ 9 ตพบลแม่คง อำเภอแม่สะเรียง มีจำนวน 483 คน รวมจนถึงวันนี้มียอดทั้งสิ้น 4,798 คน