กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า รายงานสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันฯ ห้วง 24 – 30 ม.ค.65 พบจุดความร้อนสะสม จำนวน 1,666 จุด พร้อมจัดกำลังเข้าพื้นที่เสี่ยง รณรงค์ลดการเผาในพื้นที่โล่ง

กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า รายงานสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันฯ ห้วง 24 – 30 ม.ค.65 พบจุดความร้อนสะสม จำนวน 1,666 จุด พร้อมจัดกำลังเข้าพื้นที่เสี่ยง รณรงค์ลดการเผาในพื้นที่โล่ง

พล.ต.ประสิษฐิพงศ์ มูลดี รองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า เปิดเผยว่าจากการที่กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ( บก.คฟป.ทภ.3 สน. ) ตรวจสอบสภาพอากาศในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ห้วงวันที่ 24 – 30 ม.ค.65 พบว่า ภาคเหนือ มีค่าPM 2.5 เฉลี่ยอยู่ระหว่าง ระหว่าง 11 – 42 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร, ค่า PM 10 ระหว่าง 18 – 71 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ ค่า AQI อยู่ระหว่าง 11 – 69 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยพื้นที่ที่มีค่า PM 2.5 ,PM 10 และ ค่า AQI เฉลี่ยสูงตลอดสัปดาห์ ได้แก่ จังหวัดอุตรดิตถ์ และ จังหวัดนครสวรรค์ ทั้งนี้คุณภาพอากาศโดยรวมของภาคเหนือยังคงมีสภาพอากาศอยู่ในระดับ ดี ถึง ดีมากในบางจังหวัด

สำหรับจุดความร้อนในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ (ดาวเทียมระบบ VIIRS) ห้วง24 – 30 พบเกิดจุดความร้อนสะสมจำนวน 1,666 จุด โดยเฉพาะในจังหวัดอุตรดิตถ์ เชียงราย ตาก ลำปางและจังหวัดแพร่ ส่วนใหญ่เกิดจุดความร้อนในพื้นที่ป่าสงวน จำนวน 731 จุด, พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 395 จุด และพื้นที่เกษตรจำนวน 261 จุด

อย่างไรก็ตาม ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา กอ.รมน.จังหวัด 17 จังหวัดภาคเหนือ ได้ลงพื้นที่เพื่อพบผู้นำชุมชน รณรงค์ลดการเผาในชุมชม ลาดตระเวนร่วมกับหน่วยงานเพื่อป้องปรามการเผาป่า และร่วมดับไฟกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมเดินหน้าสร้างการรับรู้ให้ประชาชนในพื้นที่กว่า 39 ครั้ง ขณะที่ชุดปฏิบัติการขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ลงพื้นที่เป้าหมายในการทำแนวกันไฟในพื้นที่เสี่ยง

รณรงค์สร้างจิตสำนึกลดการเผาในชุมชน พร้อมร่วมสร้างฝายในพื้นที่ป่าเพื่อสร้างความชุ่มชื้นให้ป่าต้นน้ำ ลดปัญหาหมอกควัน ในจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง เชียงราย แม่ฮ่องสอน และจังหวัดตาก จำนวน 43 ครั้ง ส่วนชุดปฏิบัติการลาดตระเวนและดับไฟป่า 4 ชุด จากมณฑลทหารบกที่ 33 , กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 7 , กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 7 และกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 7 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 4 เข้าปฏิบัติการในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อลาดตระเวน เฝ้าระวังการดับไฟ ตลอดจนการบังคับใช้กฎหมาย ในพื้นที่เสี่ยงทั้งจังหวัด

รองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า กล่าวต่อว่า กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ยังคงติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนืออย่างต่อเนื่อง พร้อมเตรียมลงพื้นที่จังหวัดลำปาง เชียงรายและจังหวัดแม่ฮ่องสอนช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์เพื่อติดตามแผนงานการดำเนินงานเชิงรุก ตลอดจนการเตรียมความพร้อมของจังหวัดทั้งยุทธโธปกรณ์ กำลังของเจ้าหน้าที่ แผนเผชิญเหตุ ในการแก้ไขปัญหาไฟป่าห้วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่ต้องควบคุมพิเศษ เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองในพื้นที่