มท.2จับมือ รมต.มาเลย์จับคู่ธุรกิจชายแดนภาคใต้คาดเงินสะพัดกว่า 20 ล้าน

นราธิวาส/ภาพ/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ

มท.2จับมือ รมต.มาเลย์จับคู่ธุรกิจชายแดนภาคใต้คาดเงินสะพัดกว่า 20 ล้าน

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 31 มกราคม 2563 ที่สนามกีฬามหาราช เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดมหกรรมแสดงสินค้าและเจรจาจับคู่ธุรกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นางสุชาดา พันธ์นรา นายกเทศมนตรีเมืองสุไหงโก-ลก นายปรีชา นวลน้อย นายอำเภอสุไหงโก-ลก นายบูรฮันร์ สะเม็าะ ที่ปรึกษาสมาคมนักธุรกิจมุสลิมนราธิวาส หัวหน้าส่วนราชการ ตลอดจนผู้ประกอบการและประชาชนจากพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และจากมาเลเซียเข้าร่วมงาน จำนวนกว่า 5,000 คน

ซึ่งมหกรรมแสดงสินค้าจัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 มกราคม ถึง 2 กุมภาพันธ์ 2563 โดยในวันนี้ ดาโต๊ะซรี ไซฟุดดีน นาซูตีออน บินอิสมาอีล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าภายในและกิจการผู้บริโภคของประเทศมาเลเซียได้เดินทางมาร่วมในพิธีเปิดในครั้งนี้ด้วย

ด้านนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย กล่าวว่า ประเด็นการค้าชายแดนระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศ โดยไทยและมาเลเซียมีมูลค่าการค้าชายแดนและการค้าระหว่างประเทศต่อกันแต่ละปีเป็นจำนวนหลายแสนล้านบาท อีกทั้งยังมีความสัมพันธ์อย่างแนบแน่นเหมือนบ้านพี่เมืองน้อง พึ่งพาอาศัยกันมาอย่างยาวนาน มีความคล้ายคลึงกันทั้งการนับถือศาสนา ชาติพันธุ์ ความคิดความเชื่อ ความนิยมชมชอบอุปโภค บริโภคสินค้าและบริการที่สอดคล้องตรงกันดังจะเห็นได้จากสินค้าที่ผลิตตามมาตรฐานฮาลาลเป็นที่ต้องการของตลาดทั้ง 2 ประเทศ มีการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลากว่า 60 ปีบนพื้นฐานการสานสัมพันธ์ที่ดีงามของผู้นำทั้ง 2 ประเทศ

สำหรับมหกรรมแสดงสินค้าและเจรจาธุรกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทาง ศอ.บต.ได้บูรณาการการทำงานร่วมกับภาคเอกชน โดยสมาคมนักธุรกิจมุสลิมนราธิวาส จัดแสดงสินค้านานาชนิดจากผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และผู้ประกอบการจากประเทศมาเลเซีย กว่ารวม 200 บูธ เพื่อให้ผู้ประกอบการได้แลกเปลี่ยนและพัฒนาความรู้ สร้างเครือข่ายนักธุรกิจในพื้นที่ เพื่อต่อยอดนวัตกรรมใหม่และขยายตลาดในการจำหน่ายสินค้าและบริการให้ก้าวสู่อินเตอร์

ที่สำคัญทาง ศอ.บต. ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่มุ่งเน้นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยพร้อมให้การสนับสนุนเศรษฐกิจของภาคเอกชนให้กระเตื้องขึ้น ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจของโลกที่ซบเซาลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามคาดว่ามหกรรมแสดงสินค้าและจับคู่ธุรกิจการค้าชายแดนใต้ระหว่าง 2 ประเทศ ในห้วง 3 วันที่จัดงาน คาดว่าจะมีเม็ดเงินแพร่สะพัดกว่า 20 ล้านบาท