บุรีรัมย์ สาว ป.โท ทิ้งเงินเดือนกว่าแสน มายึดศาสตร์พระราชา ระบุได้ดีกว่า

บุรีรัมย์ สาว ป.โท ทิ้งเงินเดือนกว่าแสน มายึดศาสตร์พระราชา ระบุได้ดีกว่า

สาววัย 46 ปี ระดับปริญญาโท ทิ้งเงินเดือนที่ได้กว่า 1 แสนบาท กลับมาอยู่บ้านใช้ชีวิตตามศาสตร์พระราชา ยึดขายพันธุ์ไม้ เลี้ยงสัตว์ ชีวิตกลับดีกว่า เผยโรคระบาดทำให้ปิดประเทศ “แล้วไง”ไม่เคยได้รับผลกระทบ ยิ่งอยู่บ้าน ยิ่งขายดีเพราะยุคนี้ยุคออนไลน์

วันที่ 30 ก.ค.63 สภาพเศรษฐกิจไทยที่เผชิญมรสุมจากปัจจัยเสี่ยง หลายด้าน ในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะปัญหาการระบาดของ Coronavirus Covid-19 ซึ่งส่งผลต่อสภาพเศรษฐกิจอย่างรุนแรงเป็นประวัติการณ์ แต่ละคนจะต้องดิ้นรนเพื่อหาทางเอาตัวรอดในยุคเศรษฐกิจตกต่ำ

น.ส. นรีวัลย์ โพธิ์ขำ วัย 46 ปี ชาวบ้านแดงน้อย ต.พุทไธสง อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ อีกหนึ่งตัวอย่างที่สามารถสู้กับวิกฤติเศรษฐกิจในครั้งนี้ได้ เพียงแค่ยึดเอา”ศาสตร์พระราชา หลักเกษตรทฤษฏีใหม่”ของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาเป็นแบบอย่างในการสู้ชีวิต

น.ส.นรีวัลย์ กล่าวว่า ตนเองมีที่ดินจากมรดกพ่อแม่จำนวน 10 ไร่ แต่กลับไปใช้ชีวิตอยู่ในเมืองกรุงตั้งแต่อายุยังน้อย ความรู้ที่เรียนจบในระดับปริญญาโท จากมหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าลาดกระบัง สาขาเทคโนโลยีการผลิตพืช ได้ทำงานเป็นระดับผู้จัดการ ขายเมล็ดพันธุ์พืชและปุ๋ยกับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง มีรายได้เฉลี่ยเดือนละกว่า 100,000 บาท

ถือว่าเงินเดือนสูงหากเปรียบเทียบกับแรงงานทั่วไป รายได้ที่ดูเหมือนจะมาก แต่ไม่เหลือเก็บอย่างที่ตั้งใจไว้ เพราะค่าใช้จ่ายในเมืองหลวงสูง การขับเคลื่อนทุกครั้งต้องใช้เงิน

เมื่อประมาณ 8 ปีที่ผ่านมา ตนมองเห็นแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยเฉพาะคำว่า”เกษตรทฤษฏีใหม่” จึงเริ่มแบ่งที่ดินมรดกที่ได้ให้เป็นสัดส่วน ปลูกต้นยางนา ,ประดู่ ,ไผ่ และไม้ยืนต้นอื่น ส่วนตัวเองก็ทำงานตามปกติ

จนกระทั่งเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ไม้ยืนต้นที่ปลูกไว้เป็นป่าเล็กๆของตัวเอง เริ่มมีเห็ดและของป่าให้ได้กินแล้ว จึงตัดสินใจทิ้งเงินเดือนที่ได้รับกว่า 100,000 บาท กลับมาอยู่บนที่ดินของตัวเอง เงินเก็บส่วนหนึ่งที่มีก็เอามาสร้างบ้านหลังเล็กๆ

จากนั้นก็เอาความรู้ที่ตนสะสมมา เพาะพันธุ์กล้าไม้ทุกชนิด ทั้งกล้าไม้มงคล ไม้ยืนต้น ประกาศขายผ่านทางโลกออนไลน์ มีคนติดตามและสั่งซื้อ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะ”เราไม่หลอกลูกค้า”รับผิดชอบสินค้าที่เราส่งให้ไปทุกชิ้น

แต่ละเดือนจะมีรายได้เข้ามาประมาณ 50,000-80,000 บาท จะเหลือเงินแทบทุกบาทเพราะในแต่ละวันจะมีค่าใช้จ่ายไม่กี่บาท มากสุดคือการเติมน้ำมันรถไปส่งของให้ลูกค้าในรัศมี 15 กม. เพราะในที่ดินจำนวน 10 ไร่ มีตั้งแต่หน่อไม้ ,ผักทุกชนิด,กบที่เลี้ยงไว้ ,ไก่บ้าน รวมถึงแพะที่เลี้ยงไว้ขายอีกกว่า 50 ตัว ต่างกับการได้รับเงินเดือนกว่า 100,000 จากการทำงานกับบริษัทเอกชนก่อนหน้านี้ แต่ค่าใช้จ่ายมากมายหลายทาง

น.ส.นรีวัลย์ กล่าวด้วยว่า การใช้ชีวิตอยู่กับบ้านในสวน เป็นชีวิตที่มีความสุขที่สุด อากาศดี ไม่ต้องระวังตัวมากเหมือนคนที่อยู่กันแบบแออัด โดยเฉพาะช่วงที่โรคโควิด -19 ระบาด ทำให้เศรษฐกิจ ทรุดไปทั่วโลก ผู้คนต่างกักตัวอยู่บ้าน เพราะกลัวติดเชื้อ

ขณะที่คนชาวสวนอย่างตัวเอง กลับมีความสุข ขายพันธุ์ไม้และโอนเงินในระบบออนไลน์ทั้งหมด จะใส่หน้ากากอนามัยก็ตอนขับรถไปส่งของที่บริษัทขนส่งเท่านั้น หากถามว่าถ้ารัฐบาลจะต้องปิดประเทศต่อไปอีกส่วนตัวบอกเลยว่า”แล้วไง”เพราะอยู่บ้านก็ไม่อดตาย มีอาหารการกินครบถ้วนสมบูรณ์ แต่ต้องไปแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันในเมืองที่แออัด

แนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 ประชาชน คนทุกระดับ ทุกธุรกิจ ไม่ว่าจะอยู่ในยุคนี้หรือยุคหน้า สามารถนำไปปรับใช้ได้เป็นอย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่คำว่า”ล้าสมัย”

////////////////

คิวภาพ//สภาพภายในสวน//ต้นไม้ที่เพาะขาย//เสียงเจ้าของสวน