ชื่นมื่น มิตรไมตรีสองประเทศ ” แม่ทัพภาคที่ 3 พร้อม พล.ท.อ่อง โซ ผบ. สำนักปฏิบัติการพิเศษที่ 4 ประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย – เมียนมา ครั้งที่ 33 RBC – 33 ที่เพชรบูรณ์

” ชื่นมื่น มิตรไมตรีสองประเทศ ” แม่ทัพภาคที่ 3 พร้อม พล.ท.อ่อง โซ ผบ. สำนักปฏิบัติการพิเศษที่ 4 ประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย – เมียนมา ครั้งที่ 33 RBC – 33 ที่เพชรบูรณ์

กองทัพภาคที่ 3 การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย – เมียนมา ครั้งที่ 33 (RBC – 33)

3rd army area
The 33 th meeting of the Thailand -Myanmar
Regional border commitee
26th-28th june 2019

พลโท ฉลองชัย ชัยยะคำ แม่ทัพภาคที่ 3 เป็นประธานฝ่ายไทย และ พลโท อ่องโซ ผู้บัญชาการสำนักปฎิบัติการพิเศษที่ 4 เป็นประธานฝ่ายเมียนมา ในพิธีเปิดการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย – เมียนมา ครั้งที่ 33 (RBC – 33) ณ โรงแรมดิอิมพีเรียล ภูแก้ว ฮิลล์ รีสอร์ท อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน 2562

ตามที่กองทัพภาคที่ 3/ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3/ศูนย์ควบคุมชายแดนไทยกับประเทศเพื่อน
บ้านด้านเมียนมา กองทัพภาคที่ 3 เป็นผู้รับผิดชอบการดำเนินการในการประสานงาน และการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย – เมียนมา เพื่อแก้ไขปัญหาความมั่นคงตลอดแนวชายแดน ไทย – เมียนมา อย่างมีเอกภาพ จึงจัดการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย – เมียนมา ครั้งที่ 33 (RBC-33) ซึ่งได้ดำเนินการมาแล้วจำนวน ๓๒ ครั้ง ทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายเมียนมา สลับกันเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุม สำหรับการประชุมครั้งที่ 33 ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมมีความมุ่งหมายเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือกัน ส่งเสริมการพัฒนาสัมพันธ์ในทุกระดับ อันจะก่อให้เกิดความมั่นคงในพื้นที่ตามแนวชายแดน เกิดความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์และความมั่นคงที่มีอยู่ ตลอดจนการพัฒนาส่งเสริมในเรื่องของการประสานประโยชน์ร่วมกันในพื้นที่ตามแนวชายแดนด้วยมาตรการที่ถูก และเหมาะสมบนพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และผลักดันให้เกิดความร่วมมือในด้านต่างๆ อาทิ ความร่วมมือด้านการพัฒนาสัมพันธ์ทางทหารในพื้นที่ชายแดน,ความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจ,สังคม,สาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม,การอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้,การบรรเทาสาธารณภัย,การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด,การต่อต้านขบวนการก่อการร้ายและการค้าอาวุธสงคราม,การแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวให้ถูกกฎหมาย,การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ และความร่วมมือต่อโครงการพัฒนาความเป็นอยู่ที่ยั่งยืนของประชาชนทั้งสองประเทศตามแนวชายแดน ซึ่งการประชุมในครั้งนี้ต้องสามารถรักษาความสัมพันธ์อันดีที่มีต่อกัน เกิดความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาตามแนวชายแดนอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง และ ที่สำคัญจะต้องรักษาผลประโยชน์ของชาติ บนพื้นฐานของความสัมพันธ์อันดีต่อกัน