มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ จัดโครงการสมุนไพรฆ่าเชื้อสู้ภัยโควิด 19 ช่วยชาวบ้าน

มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ จัดโครงการสมุนไพรฆ่าเชื้อสู้ภัยโควิด 19 ช่วยชาวบ้าน
มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ นอกจากจะให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบภัยพิบัติต่าง ๆ ยามบ้านเมืองวิกฤต เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโรคร้ายที่คร่าชีวิตของพี่น้องประชาชนทั่วโลกไปแล้วหลายล้านคน มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ

ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลหนึ่งที่คอยช่วยเหลือประชาชนและแบ่งเบาภาระของบุคลากรทางการแพทย์ โดยการจัดทำสมุนไพรฆ่าเชื้อ สร้างโอโซน เพิ่มออกซิเจนให้ร่างกาย ซึ่งเป็นสูตรของแพทย์แผนไทย สู้ภัยโควิด 19 แจกจ่ายให้ชาวบ้านที่กำลังได้รับความเดือดร้อนกันอย่างมากอยู่ในขณะนี้ สำหรับสมุนไพรที่ทางมูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการนำมาช่วยชาวบ้านนั้น เป็นสูตรที่นำมาจากอาจารย์เจ็ดแก้ว ลพบุรี ซึ่งสมุนไพรดังกล่าวมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อไวรัส และรักษาปอดได้เป็นอย่างดี จึงเป็นทางเลือกหนึ่งของชาวบ้านในยามวิกฤต
นายพลัฏฐคมน์ จิรกมลภัทร์ รองประธานมูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ ได้กล่าว่า สูตรสมุนไพรที่เรานำมาช่วยชาวบ้าน ในการสู้ภัยโควิด 19 ในครั้งนี้เป็นสูตรยาสมุนไพรของอาจารย์เจ็ดแก้ว เป็นสมุนไพรในครัวเรือน ที่เราใช้กันอยู่ในชีวิตประจำวัน ประเภทกระเทียมไทย พริกไทยเม็ด น้ำตายทราย น้ำส้มสายชู และน้ำเปล่า นำมาผสมในปริมาณที่เหมะสมและรับประทานอย่างมีวินัย ก็สามารถเพิ่มโฮโซนและฆ่าเชื้อไวรัสก่อนที่จะลงปอดได้ ซึ่งสมุนไพรชุดนี้เราได้มีการทดลองกับคนใกล้ตัวมาแล้วได้ผลจริง คือคนที่ตรวจสวอปและพบว่ามีการติดเชื้อแล้วทานเลยใน 4 วันแรกอาการก็จะดีขึ้นทั้งไข้และน้ำมูกก็จะหายเกือบหมด และกินต่อไปอีก 7-8 วัน ไปตรวจใหม่อีกครั้งจะไม่พบเชื้อ
ส่วนผสมก็จะมีกระเทียมไทย 5 กลีบ ปลอกเปลือกออก และพริกไทยเม็ด 5 เม็ด นำไปใส่ครกแล้วตำให้ละเอียด คือกระเทียมใช้แทนตัวยาในแผนไทยที่เดิมใช้โกศหัวบัว แต่โกฐหัวบัวหายาก และสัพคุณของกระเทียมมีฤทธิ์ลดไขมันฆ่าเชื้อโรค และกระจายและขับเสมหะที่เหนียว ๆ ซึ่งเป็นสัพคุณเสมอกับโกฐหัวบัว เราจึงนำกระเทียมมาใช้ สวนตัวพริกไทย เป็นตัวให้ความร้อนก็จะไปกระจายเลือดลมให้ร่างกายให้วิ่งได้เยอะขึ้น พอตำสองอย่างนี้เรียบร้อยแล้วให้นำไปผสมกับน้ำเปล่า 1 ลิตรและใส่น้ำตาลทรายลงไป 3 ช้อนโต๊ะ และใส่น้ำส้มสายชู 5 เปอร์เซ็นต์ลงไปอีก 2 ช้อนโต๊ะ และดื่มให้หมดภายใน 1 วัน มันก็จะไปช่วยเพิ่มโอโซน หรือเพิ่มออกซิเจนบริสุทธิ์ในร่างกายให้มากขึ้น ส่วนน้ำตาลจะเป็นตัวกระจายให้ไปทั่วทำให้ร่างกายแข็งแรง ส่วนน้ำส้มสายชูเปลี่ยนโครงสร้างไป จะช่วยเป็นพาหนะช่วยวิ่งไปทั่วรางกายได้รวดเร็วขึ้น ซึ่งส่วนผสมที่ให้ไปสามารถทำรับประทานได้ 7 วัน และรับประทานยาฟ้าทะลายโจรควบคู่กันไปมันช่วยได้จริง ๆ ส่วนสูตรซุปเปอร์โอโซนสำหรับเด็ก ก็จะมีนมโยเกิร์ตพร้อมดื่มขนาด 800 ซีซี น้ำอัดลมสไปรท์มีน้ำตายขนาด 800 ซีซี น้ำส้มสายชู 5 เปอร์เซ็น 2 ช้อนโต๊ะครึ่ง ผสมให้เข้ากันให้เด็กกินวันละไม่ต่ำกว่า 2 ถ้วยใหญ่ ส่วนที่เหลือเก็บใส่ตู้เย็นเอาไว้ทานวันต่อไป

ส่วนสูตรเร่งด่วน เวลาเราไปตรวจสวอปมาแล้วพบเชื้อ ก่อนที่จะเชื้อลงปอด มันจะเกาะอยู่ที่ลำคอของเราประมาณ 2-3 วัน เราก็จะใช้สูตรเร่งรัด โดยการใช้น้ำ 1 ลิตรไปตั้งไฟให้เดือด และใช้น้ำส้มสายชูเทลงไปครึ่งถ้วยกาแฟและคนให้เข้ากันและสูดดมไอเข้าไปทางจมูกปล่อยออกทางปากสักประมาณ 7-8 ครั้ง วันละ 2 รอบเช้าเย็น ให้ทำแบบนี้ประมาณ 2-3 วัน แล้วก็หยุด เพราะเชื้อโควิด มันอยู่ในกลุ่มของโปรตีนไขมันที่มีความเหนียว เวลาเจอกรดน้ำส้มมันก็จะละลายหายไป เพราะถ้าเราสูดดมติดต่อกันนาน ๆ ก็จะทำให้ปอดอักเสพ เพราะคนที่เป็นแล้วเมือกที่ปอดจะเยอะก็จะไม่รู้สึกอะไร แต่ถ้าเป็นคนธรรมดาจะมีอาการแสบปอด เพราะสูตรนี้เป็นยาแรง เชื้อพวกนี้ถ้าเราใช้ยาอ่อน ๆ มันจะเอาไม่อยู่ ก็จะทำให้โอกาสที่เชื้อจะลงปอดเป็นไปได้ยาก
สูตรนี้ถ้าเราใช้มากเกินไปก็อาจมีผลข้างเคียงคือแสบปอด เพราะฉะนั้นคนยังไม่มีอาการหรือไม่มั่นใจไปในกลุ่มเสี่ยงก็สูดดมสัก 3 วันก็พอ เป็นการป้องกันตัวเองเบื้องต้นที่ง่ายที่สุดแล้ว เพราะการที่จะไปหาซื้อสมุนไพรมันเป็นเรื่องยากไปแล้วสำหรับขณะนี้ และใช้เฉพาะในสถานการณ์ฉุกเฉินและระยะสั้น ๆ เท่านั้น
นายเอนกพงศ์ คูณทรัพย์สิน ประธานมูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ ได้กล่าวว่า นอกจากโครงการยาสมุนไพรแล้ว เรายังมีโครงการถุงธารน้ำใจสู้ภัยโควิด 19 เพื่อส่งต่อให้ผู้ยากไร้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 โรงครัวโรงพยาบาลสนาม และศูนย์พักคอยผู้ติดเชื้อ โครงการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อไวรัสโควิด 19 ให้การชาวบ้าน ชุมชนแออัด บ้านเรือน และในโรงงาน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมจัดซื้อชุดป้องกันการติดเชื้อ PPE ให้กู้ชีพกู้ภัย สวมใส่ในขณะปฏิบัติการช่วยเหลือชาวบ้าน และถุงซิปห่อศพ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่พร้อมรถบริการเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อไปส่งโรงพยาบาลและโรงพยาบาลสนามทุกวัน วันละไม่ต่ำกว่า 30-40 ราย
สำหรับผู้ที่มีจิตศรัทธาที่อยากร่วมทำบุญสามารถเดินทางมาร่วมทำบุญได้ที่สำนักงานมูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ ซอยท้ายบ้าน 17 ถนนท้ายบ้าน ต.ปากน้ำ อ.เมือง สมุทรปราการ หรือบริจาคผ่านทางบัญชีธนาคาร กสิกรไทย สาขาสมุทรปราการ บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 224-2-22221-5 มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-1758789 / 02-1758668 / 02-7016318

*** ก๊วก สมุทรปราการ ***