ทหารจับมือผู้นำลุยน้ำแจกข้าวสารหมู่บ้านน้ำตกสำรวจที่ทางการให้การช่วยเหลือไม่ทั่วถึง

นราธิวาส/ภาพ/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ

ทหารจับมือผู้นำลุยน้ำแจกข้าวสารหมู่บ้านน้ำตกสำรวจที่ทางการให้การช่วยเหลือไม่ทั่วถึง

รายงานข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับสภาวะน้ำท่วมจากพื้นที่ จ.นราธิวาส แจ้งว่า โดยภาพรวมสภาวะน้ำท่วมขังบ้านเรือนและพื้นที่ทางการเกษตรของประชาชนในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ มีระดับน้ำท่วมขังเริ่มลดลงตามลำดับ จากสภาวะฝนได้หยุดตกลงแล้วเป็นเวลา 2 วัน ยกเว้นบ้านเรือนของประชาชนที่ปลูกสร้างอยู่ในพื้นที่ราบลุ่มริมตลิ่งของแม่น้ำสุไหงโก-ลก และพื้นที่รอบนอกซึ่งมี จำนวน 20 ชุมชน ที่มีประชาชนอาศัยอยู่ จำนวน 1,511 ครัวเรือน ยังคงมีปริมาณน้ำท่วมขังอยู่ แม้ระดับน้ำจะลดลงชั่วโมงละ ประมาณ 1 ซ.ม. จากผลกระทบของแม่น้ำสุไหงโก-ลก ที่มีปริมาณน้ำท่วมสูงกว่าตลิ่ง 1.70 เมตร ซึ่งประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณในชุมชนดังกล่าว ส่วนใหญ่จะอพยพไปอยู่ที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้อพยพชั่วคราว ที่อาคารของโรงเรียนเทศบาล 4 บ้านทรายทอง เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ที่นางสุชาดา พันธ์นรา นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ได้จัดเตรียมไว้ให้

และจากผลพวงของแม่น้ำสุไหงโก-ลก ล้นตลิ่งในครั้งนี้ ยังมีหมู่บ้านน้ำตก ม.5 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก ที่ทางการได้เข้าไปให้การช่วยเหลือไม่ทั่วถึง ซึ่งมีประชาชนอาศัยอยู่ จำนวน 50 ครัวเรือน ซึ่งมีน้ำท่วมขังในภาพรวมสูงโดยเฉลี่ย 40 ถึง 120 ซ.ม. นั้น ล่าสุด พ.ท.ทวีรัตน์ เบญจาทิกุล ผบ.ฉก.นราธิวาส 30 พ.ต.ธีรศานต์ ตระกูลดี รอง ผบ.ฉก.นราธิวาส 30 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุไหงโก-ลก ฝ่ายปกครองพร้อมด้วยกำนันผู้ใหญ่บ้าน ได้ร่วมนำเครื่องอุปโภคบริโภค จำพวก ข้าวสารอาหารแห้ง น้ำดื่มและยาสามัญประจำบ้าน ขึ้นเรือพายเดินลุยน้ำตระเวนแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น

ซึ่งการเดินลุยน้ำตระเวนแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับประชาชนในครั้งนี้ พบในหมู่บ้านดังกล่าวมีผู้สูงอายุ จำนวน 4 ครัวเรือน และผู้พิการ 1 ครัวเรือน โดยเฉพาะนางมะอีซอ อาแวกือจิ ซึ่งมีอายุ 92 ปี ชราจนไม่สามารถเดินได้ ต้องนอนให้เครือญาติปรนนิบัติในการใช้ชีวิตประจำวัน และจากการพูดคุยกับเครือญาติสิ่งที่จำเป็น คือ เตียงสำหรับผู้ป่วยที่ให้นางมะอีซอ ใช้นอนเพื่อง่ายต่อการกลับหรือพลิกตัวในการป้องกันแผลกดทับที่อาจจะมีขึ้นในอนาคต ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้นำข้อมูลเพื่อรายงานผู้ที่เกี่ยวข้อง ในการจัดหาเตียงผู้ป่วยมามอบให้ในโอกาสต่อไป

นอกจากนี้ยังมีครอบครัวผู้พิการอีก 1 ราย ซึ่งเป็นเด็กชายอายุ 14 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคโปลิโอมาตั้งแต่กำเนิด ซึ่งมีมารดาเป็นผู้ดูแลมาตั้งแต่กำเนิดและมีฐานะยากจน เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่มาให้การช่วยเหลือถึงกับน้ำตาซึม โดยเฉพาะในช่วงสภาวะน้ำท่วมครั้งนี้ ที่ทางครอบครัวไม่สะดวกที่จะออกไปซื้อหาอาหารมารับประทาน