อุทัยธานี หนุ่มจับมือหมอกลางโรงพัก เข้าใจผิดต่างขอโทษกัน หลังใช้มือค้ำคอหมอ กลายเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต จากกรณีเข้าใจผิดกัน ทางหมอไม่ยอม “โพสต์เฟสบุ๊ค!!ห้ามบุคคลในภาพเข้าเขตบริเวณโรงพยาบาลเป็นบุคคลอันตรายอุกอาจทำร้ายแพทย์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ

อุทัยธานี หนุ่มจับมือหมอกลางโรงพัก เข้าใจผิดต่างขอโทษกัน หลังใช้มือค้ำคอหมอ กลายเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต จากกรณีเข้าใจผิดกัน ทางหมอไม่ยอม “โพสต์เฟสบุ๊ค!!ห้ามบุคคลในภาพเข้าเขตบริเวณโรงพยาบาลเป็นบุคคลอันตรายอุกอาจทำร้ายแพทย์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ

เมื่อเวลา 14.00.น.ของวันที่ 20 สิงหาคม 2565 ผู้สื่อข่าวได้ทราบข่าวจากเฟสบุ๊ครายหนึ่ง ซึ่งระบุใจความว่า

“เรียนพี่น้องเจ้าหน้าที่ รพ.ในเขตอำเภอลานสัก และพี่ๆทุกท่านครับ หากพบเห็นบุคคลดังภาพในเขตบริเวณโรงพยาบาล กรุณาแจ้งยาม หรือแจ้งผม เนื่องจากเป็นบุคคลอันตราย มีพฤติการอุกอาจทำร้ายแพทย์ต่อหน้าเจ้าหน้าทีตำรวจ ได้แจ้งความดำเนินคดีและได้ขออนุญาต ผอ.โรงพยาบาล ให้ออกคำสั่งห้ามเข้าโรงพยาบาลไว้ก่อน จนกว่าจะมีการสอบสวนต่อไป ขอบคุณครับ”

ล่าสุดหลังจากทราบข่าวทางเฟสบุ๊ค ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปหาคนโพสต์เฟส ซึ่งเป็นนายแพทย์ อยู่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเขตอำเภอลานสัก ชื่อหมอหนึ่ง อายุ 32 ปี ได้เปิดเผยว่าที่ตนเองโพสต์เฟสบุ๊ค เนื่องจากตนเองและภรรยานั้นได้หวาดกลัว กับการกระทำของชายดังกล่าว ที่ได้ใช้มือค้ำคอตนเองต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ลานสัก ซึ่งก่อนหน้านี้ วันที่ 19 สิงหาคม 2565 ทางตนเองและภรรยานั้น ได้พักอาศัยอยู่บ้านพักของทางโรงพยาบาล หรือสถานที่ข้าราชการ ล่าสุดช่วงเวลาประมาณ 4 โมงเย็น ภรรยาของตนเองได้เดินออกมาเดินเล่นแถวบริเวณหน้าห้องพัก จู่ๆได้มีชายคนดังกล่าวขับรถเก๋งมาวนที่บริเวณรอบๆที่พักถึง 2 รอบ พร้อมกับตะโกนว่าภรรยาตนเองว่า ให้มาเจอกันที่หน้าโรงพยาบาล เก่งนักเหรอ แล้วก็ได้ชี้หน้าภรรยาของตนเอง ซึ่งสร้างความหวาดกลัวและก็ไม่ปลอดภัยให้กับภรรยาของตนเอง เนื่องจากอยู่ในสถานที่ข้าราชการยังมีคนกล้ามาหาเรื่อง ต่อมาทางภรรยาก็ได้เดินไปเล่าเรื่องราวให้กับตนเองฟัง หลังจากนั้นจึงได้พากันไปแจ้งความกับชายดังกล่าวที่สภ.ลานสักไว้เป็นที่เรียบร้อย พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกทั้ง 2 ฝ่ายมาคุยกัน ล่าสุดชายดังกล่าวก็มีอารมณ์ร้อนขึ้นมาทันที เนื่องจากมีความเข้าใจผิดกันระหว่างที่กำลังพูดคุย ชายดังกล่าวได้ลุกขึ้น พร้อมกับใช้มือมาค้ำคอของตนเองจนได้รับบาดเจ็บ หลังจากนั้นมาตนเองจึงไม่ขอยอมความ ซึ่งจะเอาผิดกับชายดังกล่าวให้ถึงที่สุด จึงเป็นเหตุให้คัวหมอเองนำภาพผู้ชายดังกล่าวพร้อมเนื้อหาใจความไปลงเฟสบุ๊คเพื่อเตือนภัย

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังชายดังกล่าว มีนามชื่อว่า นายแจ็ค อายุ 37 ปี ก็ได้เปิดเผยกับนักข่าวด้วยเช่นกัน ว่าตนเองได้อ้างว่าตนเองนั้นน้อยใจและเจ็บใจ อยากให้ผู้สื่อข่าวช่วยเป็นกระบอกเสียงให้ตัวผมหน่อย เนื่องจากตัวผมเองถูกคุณหมอคนดังกล่าว นำภาพผมและเนื้อหาห้ามตัวผมเข้าไปในที่เขตบริเวณโรงพยาบาลในเขตอำเภอลานสัก ซึ่งทำให้ผมอับอายในสื่อในโลกโซเชียล เนื่องจากตัวผมต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลดังกล่าว ตัวผมเองไม่ได้ทำความผิดร้ายแรงอะไร ก็แค่บันดาลโทสะอารมณ์ชั่ววูบ จึงได้ใช้มือค้ำคอหมอคนดังกล่าว ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ ที่สภ.ลานสัก พร้อมกับไม่ได้ตั้งใจ ผมก็ยอมรับผิดทุกอย่างที่ตัวผมทำ และที่บอกว่าตัวผมขับรถไปชี้หน้าด่าภรรยาของหมอดังกล่าว เวลานั้นตัวนายแจ็ค อ้างว่ามันไม่จริง ตัวผมเองนั้นได้ขับรถไปบริเวณเขตโรงพยาบาลจริง แต่ตัวผมไม่ได้ด่าภรรยาหมอ ตัวผมด่าภรรยาตัวผมเองที่นั่งมาบนรถด้วยกันก็แค่นั้น ด้วยความเสียงดัง จึงดังออกไปจากนอกตัวรถเนื่องจากตนเองนั้นได้เปิดกระจกรถไว้ จึงก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

ต่อมาวันนี้ เวลา 14.00.น.ของวันที่ 20 สิงหาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ลานสักได้ให้ทั้งสองฝ่ายเข้ามาไกล่เกลี่ยกัน ตกลงกัน ใช้เวลาค่อนข้างเป็นวันเล่นเอาเจ้าหน้าที่เหนื่อยล้า เนื่องจากทั้ง2ฝ่ายก็ต่างคนต่างไม่ยอม ต่างจะดำเนินคดีกัน ล่าสุดไม่รู้อารมณ์ไหน จู่ๆเพียงไม่ถึง 5 นาที งงกันทั้งโรงพัก ทั้งสองฝ่ายจับมือต่างคนต่างยอมความ ต่างคนต่างขอโทษผ่านสื่อโซเชียล ที่ทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียชื่อเสียเสียง โดยทั้ง 2 ฝ่ายได้เปิดเผยว่าทั้งหมดนี้ อาจจะเข้าใจผิดกันหรือไม่เข้าใจกัน จนทำให้ต่างคนต่างไม่ยอมจึงก่อให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นดังกล่าว

สำเนา ทองศรี รายงาน 0987817019