ธกส.สนับสนุนการบริหารจัดการลำไย ปีการผลิต 2565แก้ปัญหาให้กับ เกษตรกรผู้ปลูกลำไยถือทำให้ผลผลิตของเกษตรกรได้มีที่จำหน่ายและ ได้รับราคาที่ เป็นธรรม

ธกส.สนับสนุนการบริหารจัดการลำไย ปีการผลิต 2565แก้ปัญหาให้กับ เกษตรกรผู้ปลูกลำไยถือทำให้ผลผลิตของเกษตรกรได้มีที่จำหน่ายและ ได้รับราคาที่ เป็นธรรม

เมื่อเร็วๆนี้โรงแรมเมอร์เคียว เชียงใหม่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ฝ่ายกิจการสาขาภาคเหนือตอนบน ได้ดำเนินการจัดโครงการสนับสนุนการบริหารจัดการลำไย ที่ โดยมีนายมาโนช บัวองค์ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาขาภาคเหนือตอนบน ธนาคารเพื่อการเกษตรและ สหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมโดยมีเกษตรกรผู้ปลุกลำไยร่วมรับฟัง
นายมาโนช บัวองค์ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาขาภาคเหนือตอนบน ธนาคารเพื่อการเกษตรและ สหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า
สถานการณ์ในปีการผลิต 2565 คาดการณ์ว่าผลผลิตลำไยใน 8 จังหวัดภาคเหนือ ประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย พะเยา น่าน ลำปาง แพร่ และตาก จะเห็นได้ว่ามีผลผลิตลำไย เพิ่มขึ้นจากปี 2564 คิดเป็นร้อยละ 14.03 และช่วงเวลาที่ผลผลิตที่ออกมากที่สุดช่วงสัปดาห์ที่ 1-3 ของเดือนสิงหาคม ซึ่งจากผลผลิตมีมากขึ้นและสืบเนื่องจากภาวะการระบาดของโรคไวรัสโคโรน่า ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นทางด้านตลาดจะต้องเกิดปัญหาอย่างแน่นอน ทั้งใน ด้านการส่งออกและการบริโภคในประเทศซึ่งขาดกำลังซื้อ ในด้านของภาครัฐ การแก้ปัญหาให้กับ เกษตรกรผู้ปลูกลำไยถือเป็นงานที่สำคัญในอันที่จะทำให้ผลผลิตของเกษตรกรได้มีที่จำหน่ายและ ได้รับราคาที่ เป็นธรรม

เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ ส่วนงานภาครัฐ เอกชน และสมาคมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้เล็งเห็นความสาคัญของการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร และได้จัดการประชุมโครงการ สนับสนุนการบริหารจัดการลำไย ปีการผลิต 2565 ขึ้น เพื่อเป็นการเจรจาร่วมมือกันระหว่างผู้ รวบรวมผลิตผลลำไย และผู้รับซื้อผลผลิตเพื่อจำหน่าย เพื่อให้เกษตรกรได้มีที่จำหน่ายผลผลิตที่ แน่นอน รวมถึงผู้ประกอบการที่มาเข้าร่วมประชุมจะได้รับรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของ ธ.ก.ส.ที่ เหมาะสมกับธุรกิจของตนเอง อันจะนำไปสู่การรับซื้อผลผลิตของเกษตรกรในราคาที่เป็นธรรมด้วย.

ฟงหวิน ศักดิ์อัศวิน /เชียงใหม่