รอง ผอ.รมน.ภาค4ยันคนไทยไม่ได้ลักลอบข้ามแดนตามโลกโซเซียล พร้อมร่วมบิ๊กคลีนนิ่งมัสยิด

นราธิวาส/ภาพ/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ
รอง ผอ.รมน.ภาค4ยันคนไทยไม่ได้ลักลอบข้ามแดนตามโลกโซเซียล พร้อมร่วมบิ๊กคลีนนิ่งมัสยิด

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 20 มี.ค. 63 พล.ต.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รอง ผอ.รมน.ภาค 4 ได้เดินทางมายังด่านพรมแดน อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เพื่อติดตามการคัดกรองคนไทยที่ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทยอยเดินทางกลับผ่านพรมแดน อ.สุไหงโก-ลก เป็นวันที่ 3 หลังจากที่ประเทศมาเลเซียใช้มาตรการกฎเหล็กในการปิดประเทศเป็นเวลา 14 วัน เพื่อป้องกันและสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด 19 โดยมี พ.อ.ไพศาล หนูสังข์ รอง ผบ.ฉก.นราธิวาส นายปรีชา นวลน้อย นายอำเภอสุไหงโก-ลก พ.ท.ทวีรัตน์ เบญจาทิกุล ผบ.ฉก.นราธิวาส 30 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวคอยให้การต้อนรับ และได้นำ พล.ต.เกรียงไกร รอง ผอ.รมน.ภาค 4 ในการเดินชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่บริเวณจุดคัดกรอง พร้อมทั้งได้พูดคุยกับชาวไทยที่ทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา โดยส่วนใหญ่มีความหวาดกลัวเกรงติดเชื้อไวรัสที่ประเทศมาเลเซีย และได้เดินทางกลับภูมิลำเนาเพราะมั่นใจว่าประเทศไทยสามารถที่จะสกัดกั้นการแพร่ระบาดของไวรัสได้ ส่วนคนไทยจำนวนหนึ่งที่มีครอบครัวอยู่ในประเทศมาเลเซีย ก็สามารถอยู่ได้ตามปกติโดยทางการประเทศมาเลเซียไม่มีการบังคับให้กลับประเทศแต่อย่างใด และหลังจากประเทศมาเลเซียใช้กฎเหล็กปิดประเทศเป็นเวลา 14 วัน พบว่าคนไทยที่เดินทางไปค้าแรงงานยังรัฐต่างๆของประเทศมาเลเซีย เดินทางกลับโดยผ่านระบบการตรวจสอบของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองทั้ง 3 ด่านพรมแดนในพื้นที่ 3 อำเภอ คือ ตากใบ สุไหงโก-ลกและแว้ง มีจำนวนทั้งสิ้น 7,443 คน

ต่อมา พล.ต.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รอง ผอ.รมน.ภาค 4 ได้เดินทางต่อไปยังช่องทางข้ามที่เป็นจุดผ่อนปรน บริเวณท่าประปา เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก เพื่อเยี่ยมการทำงานของเจ้าหน้าที่ อสม.และเจ้าหน้าที่ทหารชุดป้องกันชายแดนที่ 3 ที่ถูกส่งตัวมาปฏิบัติหน้าที่ในการคัดกรองบุคคล และคอยสอดส่องบุคคลไม่ให้ลักลอบเดินทางเข้าประเทศ โดยที่ไม่ผ่านการตรวจโรคและคัดกรองเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด 19 ซึ่งทางประเทศมาเลเซียก็ได้จัดส่งหน่วย PGA หรือ ตำรวจตระเวนชายแดนจากเมืองกวนตัง รัฐปาหัง มาปฏิบัติหน้าที่ควบคู่กับประเทศไทย เพื่อเป็นการป้องกันการลักลอบข้ามพรมแดนทั้ง 2 ฟากฝั่ง ของบุคคลที่ถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ไม่ได้ผ่านการคัดกรองเชื้อไวรัสโควิด 19 ตามมาตรการของทั้ง 2 ประเทศ
แต่ถึงอย่างไรก็ตามก่อนที่ พล.ต.เกรียงไกร รอง ผอ.รมน.ภาค 4 จะเดินทางกลับ ได้เดินทางไปร่วมทำความสะอาดที่มัสยิดอัตตักวา บ้านตือระ ม.2 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก ซึ่งเป็น 1 ในมัสยิด 48 แห่ง ที่ทางนายปรีชา นวลน้อย นายอำเภอสุไหงโก-ลก ได้มีการจัดบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ในวันนี้พร้อมกันทั้งอำเภอ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง รวมทั้งกลุ่มจิตอาสา ได้ร่วมกันทำความสะอาด ซึ่งถือว่าเป็นจุดศูนย์รวมของชาวไทยมุสลิม ที่ในแต่ละวันต้องเดินทางมาประกอบพิธีทางศาสนา ในการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ว่าเป็นสถานที่ปลอดเชื้อระบาดของไวรัสโคโรนา หรือ โควิด 19
นอกจากนี้แล้วที่บริเวณด่านพรมแดน อ.สุไหงโก-ลก ก็ยังมีการใช้น้ไผสมกับยาฆ่าเชื้อในการฉีดพ่น บริเวณด่านพรมแดนทุกจุดที่ประชาชนได้เดินทางมาใช้บริการ อาทิ บริเวณห้องประทับตราหนังสือเดินทาง ช่องทางเข้าออกของยานพาหนะระหว่างประเทศ รวมทั้งตัวอาคารที่ทำงานด่านศุลกากร ศาลาที่ประชาชนและรถ จยย.จอดรับผู้โดยสาร ซึ่งถือว่าเป็นสถานที่สุ่มเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ที่ติดมากับบุคคลที่เดินทางเข้าออกระหว่างประเทศทั้ง 2
ด้าน พล.ต.เกรียงไกร รอง รมน.ภาค 4 กล่าวถึงภาพที่มีประชาชนเป็นจำนวนมากนั่งเรือยนต์ข้ามฟาก โดยที่ไม่ผ่านระบบการคัดกรองโรคนั้น เป็นภาพนานมาแล้วคุ้นๆตาน่าจะเป็นปี 57 ที่แม่สอด ถ้าข้ามช่องทางธรรมชาติทางฝั่ง อ.สุไหงโก-ลก แว้ง ตากใบ ก็ดี ถ้าเป็นฝั่งนี้ถ้าเราไปดูภาพจะเห็นเป็นผู้หญิงพี่น้องมุสลิม ก็น่าจะสวมฮิญาบมาซึ่งในรูปไม่มีเลยและเป็นรูปเก่าด้วย
ด้านหญิงไทยคนหนึ่งซึ่งเดินทางกลับมาจากประเทศมาเลเซียในวันนี้ กล่าวว่า เราคนไทยออกจากประเทศมาเลเซียได้ แต่คนมาเลเซียจะออกจากประเทศเขาไม่ได้ และคนไทยก็ไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศมาเลเซียได้เช่นกัน ซึ่งหากเรานั่งรถยนต์จะพบเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศมาเลเซียตั้งจุดตรวจตามถนนเป็นจุดๆ เขาจะเรียกสอบถามเราว่ามาจากไหนและจะไปไหน และใช้เครื่องมือตรวจเราว่ามีไข้หรือ