เจ้าหน้าที่ป่าไม้ยึดไม้สักท่อนห่างจากหมู่บ้านเพียงแค่ 1 กม.

เจ้าหน้าที่ป่าไม้ยึดไม้สักท่อนห่างจากหมู่บ้านเพียงแค่ 1 กม.

ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ มส.5 (อ.แม่สะเรียง) นำโดย นายสมจินต์ เนตรประดิษฐ เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน หัวหน้าหน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ มส.5 (อ.แม่สะเรียง) ร่วมกับนายอำนวย ยอดคำ หัวหน้าสายตรวจสายที่ 2 ได้ร่วมกันออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ โดยได้รับแจ้งจากพลเมืองดี (ขอสงวนนาม) ทางโทรศัพท์ว่ามีการลักลอบตัดไม้ที่บริเวณป่าบ้านแม่ต๊อบเหนือ หมู่ที่ 7 ตำบลบ้านกาศ อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน และจะมีการนำรถยนต์ไปบรรทุกไม้ออกมาจากจุดที่ลักลอบตัดโค่นไม้จึงขอให้เจ้าหน้าที่เข้าไปทำการตรวจสอบ
เจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปยังบริเวณที่ได้รับแจ้ง อยู่ทางทิศเหนือของบ้านแม่ต๊อบเหนือ หมู่ที่ 7 ตำบลบ้านกาศ อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ห่างจากหมู่บ้านแม่ต๊อบเหนือประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นลำห้วยอีกึ ซึ่งลำห้วยอีกึเป็นเส้นทางใช้สำหรับเข้าพื้นที่ป่า และที่ทำการเกษตร เมื่อคณะเจ้าหน้าที่เดินทางโดยทางเท้าเข้าไปตามลำห้วยพบมีรถยนต์กระบะสีเขียว หมายเลขทะเบียน ขค 1162 จังหวัดแม่ฮ่องสอน หลังกระบะมีโครงเหล็กจอดอยู่และมีชาย 1 คน ยืนอยู่ข้างรถยนต์คันดังกล่าวคณะเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปเพื่อขอตรวจสอบ จากการตรวจสอบปรากฏตรวจพบดังนี้ 1. พบวิทยุสื่อสารแบบมือถือ จำนวน 2 เครื่อง วางอยู่และเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบวิทยุสื่อสารทั้ง 2 เครื่อง ใช้การได้ตามปกติ 2. ตรวจพบเลื่อยโซ่ยนต์นำซุกซ่อนอยู่ในถุงปุ๋ย จำนวน 2 กระสอบ 3. ตรวจพบอุปกรณ์ลอกโซ่แบบใช้มือซาวพบลวดสลิงและอุปกรณ์ต่าง ๆ วางไว้อยู่บริเวณหลังกระบะรถยนต์คันดังกล่าว 4. ตรวจพบไม้สักท่อน จำนวน 2 ท่อน วางอยู่ห่างจากรถประมาณ 2 เมตร 5. ตรวจพบมีการลักลอบตัดโค่นไม้สักล้มลง และถูกตัดทอนเป็นท่อน ๆ ลักษณะใหม่ พบร่องรอยการตัดทอนด้วยเลื่อยโซ่ยนต์ จำนวน 7 ท่อน เจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นภายในรถ

พบหลักฐาน ซึ่งเป็นอุปกรณ์ในการกระทำผิดในอยู่ในรถยนต์ของชายคนดังกล่าวเป็นจำนวนมาก และเจ้าหน้าที่ได้นำกระดาษลอกลายเพื่อทำการลอกลาย จำนวนไม้ 2 ท่อนที่วางอยู่ข้างรถไปทำการเปรียบเทียบกับไม้สักท่อนที่ทำการโค่นล้ม ปรากฏมีขนาดและเส้นวงปีพร้อมรูปลักษณะของไม้ตรงกัน อีกทั้งในบริเวณดังกล่าวไม่พบบุคคลอื่นใดอยู่บริเวณดังกล่าว จากหลักฐานในที่เกิดเหตุประกอบกับอุปกรณ์ที่ตรวจพบคณะเจ้าหน้าที่มีเหตุผลและหลักฐานที่ชัดเจนจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ชายคนดังกล่าว กระทำผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ตามพระราชบัญญัติป่าไม้พุทธศักราช 2484 มาตรา 11 ฐาน “ทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต” มาตรา 69 ทำไม้และมีไม้สักท่อนอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” และพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พุทธศักราช 2507 มาตรา 14 ฐาน“ทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต”และพระราชบัญญัติเลื่อยโซ่ยนต์ พ.ศ.2545 มาตรา 4 ฐาน“มีเลื่อยโซ่ยนต์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาติคณะเจ้าหน้าจึงได้ร่วมกันทำการตรวจวัดชนิด ขนาด จำนวน ได้ไม้สักท่อน 9 ท่อน ปริมาตร 1.89 ลบ.ม คิดเป็นเงินค่าภาคหลวง 1,512 บาท คิดเป็นเงินค่าเสียหาย 15,120 บาท โดยใช้ดวงตรา ต.9667 ย.545 เลขเรียงไม้สักท่อน 10-19 เลขเรียง ปีย่อ 66 ตีประทับไว้ที่ไม้ของกลางพร้อมตรวจยึดอุปกรณ์ในการกระทำผิด จึงขออนุมัติพนักงานสอบสวนนำของกลางออกมาจากที่เกิดเหตุมาเก็บรักษาไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ มส.5 (อ.แม่สะเรียง) พร้อมได้จัดทำบันทึกร่วมรวมพยานหลักฐานและภาพถ่ายที่เกิดเหตุ พร้อมตัวผู้กระทำผิด นำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรแม่สะเรียงเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เกียรติศักดิ์ รักสัตย์ / เกียรติยศ รักสัตย์ ทีมข่าวภูมิภาคประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน