เต้ อาชีวะปกป้องสถาบัน และเพื่อน โดนคดี ผิด พรก.ฉุนเฉิน จากการจัดม็อบหน้าหอศิลป์ ลั่น! ถ้าปกป้องสถาบันกษัตริย์แล้วติดคุก พวกตนก็ยอม

เต้ อาชีวะปกป้องสถาบัน และเพื่อน โดนคดี ผิด พรก.ฉุนเฉิน จากการจัดม็อบหน้าหอศิลป์ ลั่น! ถ้าปกป้องสถาบันกษัตริย์แล้วติดคุก พวกตนก็ยอม

วันนี้ (17 มิ.ย.) เวลา 10.30 น. ที่ สน.ปทุมวัน นายอัคราวุธ ไกรศรีสมบัติ หรือ เต้ อาชีวะ พร้อมด้วย นายฐากูร นวลแก้ว แกนนำกลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบัน พร้อมทนายความ เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ตามหมายเรียกของ สน.ปทุมวัน ในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และร่วมกันโฆษณาใช้เครื่องขยายเสียง จากการชุมนุมทำกิจกรรม แสดงพลังปกป้องสถาบัน ที่หน้าหอศิลปวัฒนธรรม เมื่อวันที่ 14 มี.ค.2564
.
บรรยากาศในวันนี้มีเพื่อนสมาชิกกลุ่มอาชีวะรักสถาบัน ประมาณ 10 คน เดินทางมาร่วมให้กำลังใจ และมอบดอกกุหลาบให้กับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน
.
นายอัคราวุธ ไกรศรีสมบัติ หรือ เต้ อาชีวะ เปิดเผยว่า ตนมาเพื่อรับทราบหมายเรียกจากการจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ เพราะก่อนเกิดกิจกรรม ว่ามีการเผาพระบรมฉายาลักษณ์ พวกตนในนามกลุ่มรักสถาบัน ทนไม่ได้ที่มีการเผาพระบรมฉายาลักษณ์ ซึ่งทางตำรวจได้บอกว่าฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉินมาตรา 9 ตนก็ยึดน้อมรับตามความผิดอยู่แล้วตามกฎหมายกฎหมายรัฐธรรมนูญของประเทศไทย ที่ต้องยึดรัฐธรรมนูญและกฎหมายฉบับเดียวกัน ดังนั้นผู้ใดที่ได้ทำความผิดไว้หรือทำการคล้ายกับตน สิ่งนี้ตนทำเพื่อปกป้องสถาบัน ตนผิดตนยอมรับแต่ถ้าสิ่งที่คุณทำ คุณทำเพื่ออะไร คุณรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วว่าคุณมาเล่น พวกตนพร้อมชนกับพี่เสมอ

.
นายอัคราวุธ หรือ เต้ กล่าวต่อว่า ถ้าผมยืนเคียงข้างหมอ (นพ.เหรียญทอง) แล้วตนก็ยอม แต่ถ้ามีการเล่นกฎหมายอย่างเดียว ก็รอแล้วกัน จุดยืนของตนเหมือนเดิม นายอัครวุธยังกล่าวเน้นย้ำว่า ถ้ามีการจาบจ้วง พวกตนก็ออก จะมี พ.ร.ก.อะไร ตนก็ออกเพราะเป็นประชาชนคนไทยคนหนึ่งเพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ สำหรับการชุมนุมวันที่ 24 มิถุนา ก็เป็นสิทธิ์ของพวกเขาที่จะทำได้ แต่ถ้าหากมีใครมาจาบจ้วงสถาบัน พวกตนก็จะมาต่อต้านเพื่อปกป้องสถาบันเช่นกัน
.
ด้านนายฐากูร นวลแก้ว หรือ โฆษกโอ้ต กล่าวว่า การออกมาตรงนี้ ถือว่าเป็นความผิดโดยชอบธรรม เราอยู่ใต้ฟ้าเดียวกัน ตนยอมรับถ้าจะผิดโดยการออกมาปกป้องสถาบันที่เรารัก ตนจะน้อมรับข้อกล่าวหาที่ทั้งหมด สำหรับพวกที่ออกมาจะทำดีหรือไม่ดี ขอให้ออกมารับข้อกล่าวหาเช่นเดียวกับพวกตน
.
ด้านนายบัญชา ปานนิวัฒน์ หรือ ชู วัดเศวต ที่เดินทางมาให้กำลังใจ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า พวกตนกับเต้เป็นพี่น้อง เราเดินมาด้วยกัน ประเทศไทยต้องมี 3 สี คือ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ที่พวกเราจะต้องเทิดทูน การที่น้องชายผมไปยืนข้างหมอ (นพ.เหรียญทอง) แสดงความสนับสนุน แล้วมาโดนมหายเรียกย้อนหลัง ซึ่งเหตุการณ์นี้ผ่านมา 2-3 เดือนแล้ว นายบัญชากล่าวต่อว่า คุณเป็น ส.ส.ได้ทำอะไรให้ประเทศไทยบ้าง เราลูกผู้ชายด้วยกัน อย่าลับหลัง เอาให้เต็มที่เลย ถ้าพวกผมออกมาปกป้องพระมหากษัตริย์แล้วจะต้องติดคุก ผมก็ยอม
.
ด้านนรินทร์ ศักดิ์เจริญชัยกุล หรือ ทนายม้ง กล่าวว่า ผู้ต้องหาไม่ได้มีเจตนา แต่ว่าปัญหาก็คือมีอีกฝั่งหนึ่งออกมา เราก็ต้องออกมา เพราะฉะนั้นน้องเขาก็ยอมรับแล้ว ก็ให้ปล่อยทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย สำหรับคนที่โดนคดีเช่นนี้ก็ขอให้ดำเนินคดีตามมาตรฐานเดียวกัน.