ตราด /คกก.ธรรมาภิบาลตรวจโครงการเรียงหินกันคลื่นบ้านไม้รูดงบประมาณ 10 ล้านบาท

ตราด /คกก.ธรรมาภิบาลตรวจโครงการเรียงหินกันคลื่นบ้านไม้รูดงบประมาณ 10 ล้านบาท

วันที่ 16 สิงหาคม 62 ที่บ้านร่มสุข ม.6 บ้านปลองไม้รูด ต.ไม้รูด อ.คลองใหญ่ จ.ตราด นายสมโภชน์ วาสุกรี รองประธานกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดตราดพร้อมคณะเดินทางไปตรวจสอดส่องติดตามโครงการเรียงหินกันคลื่นปากคลองไม้รูด โดยมีนายสุรศักดิ์ อินทรประเสริฐ นายก อบต.ไม้รูด นายประพันธ์ ประทุมชุมภู ปลัดเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง รักษาการแทนนายอําเภอคลองใหญ่ติดราชการเร่งด่วน จึงมอบหมายและให้การต้อนรับ ซึ่งเป็นการตรวจติดตามงานในโครงการ ตามมติคณะกรรมการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการจังหวัดตราด เป็นโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหากัดเซาะตลิ่งและชายฝั่งของตําบลไม้รูด ในกิจกรรมเรียงหินกันคลื่นปากคลองบ้านร่มสุข หมู่ที่ 6 ตําบลไม้รูด การก่อสร้างเริ่มตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2562 สิ้นสุดในวันที่ 6 พฤษภาคม 2563 ระยะเวลาการก่อสร้าง 400 วัน ในงบประมาณ 10,125,000,00 บาท
ซึ่งโครงการนี้ มีห้างหุ้นส่วนจํากัดโชคดี 55 ต.อ่าวใหญ่ เป็นผู้ดําเนินการสร้าง การก่อสร้างเขื่อนกันตลิ่งแบบทิ้งหินก้อนใหญ่ กว้าง 5.00 เมตร สูงเฉลี่ย 2.00 เมตร ความยาว 350.00 เมตร ขณะนี้ได้ดำเนินการก่อส้รางมาได้กว่า 4 เดือนแล้ว คณะธรรมาภิบาลจังหวัดตราด เดินทางมาตรวจสอบ เพื่อเป็นการสอดส่องการดำเนินโครงการนี้ ซึ่งจังหวัดตราดได้มอบหมายให้สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจ.ตราดเป็นผู้มีอำนาจในการดำเนินกิจกรรมทุกขั้นตอน ตามพรบ.การจัดซื้อ จัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 เพื่อให้เกิดความคล่องตัว รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้เนื่องด้วยตําบลไม้รูดที่มีพื้นที่ชายฝั่งติดทะเลอ่าวไทย ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพปนะมงเกือบ 100% สร้างบ้านเรือนบริเวณชายฝั่งทะเล และบริเวณสองฝั่งคลองใหญ่ โดยเฉพาะคลองไม้รูด หมู่ 1 และหมู่ 6 ซึ่งเป็นคลองที่ประชาชนประกอบอาชีพประมง และสร้างบ้านเรือน อาศัยอยู่เป็นจํานวนมาก แต่ประชาชนเหล่านี้ดํารงชีวิตอยู่ท่ามกลางความเสี่ยงในชีวิตและทรัพย์สิน เนื่องจากช่วงมรสุมจะเกิดคลื่นขนาดใหญ่ซัดเข้าฝั่ง ทําให้ชาวประมง ที่สัญจรผ่านเข้าออกคลองบ้านไม้รูดเพื่อทําการประมงยากลําบาก และเป็นเหตุให้เรือล่มบ่อยครั้ง อีกทั้งยังทําให้เกิดความเสียหายกับบ้านเรือน ประชาชน นอกจากนี้ยังทําให้เกิดการกันเซาะชายฝั่ง มีความเสี่ยงที่ทําให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเรือนประชาชน และการเคลื่อนตัวของทรายบริเวณปากคลอง ถูกพัดพามาทําให้คลองตื้นเขิน เป็นเหตุทําให้เรือของชาวประมงสัญจรเข้าออกไม่สะดวก และทําให้เกิดความเสียหาย จึงได้มีการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง และป้องกันภัยพิบัตทางน้ำด้วย

ภาพ/ข่าว วิเชียร ม่วงสี ทีมข่าวภูมิภาค
นาย พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก