พิษณุโลก ราคาหมูพุ่งต่อเนื่อง 160 บาทต่อกก.แล้ว กระทบอาหารตามสั่ง พาณิชย์กำชับพ่อค้าอย่าขายเกินราคาตามป้าย

พิษณุโลก ราคาหมูพุ่งต่อเนื่อง 160 บาทต่อกก.แล้ว กระทบอาหารตามสั่ง พาณิชย์กำชับพ่อค้าอย่าขายเกินราคาตามป้าย

ราคาขายปลีกหมูในตลาดสดพิษณุโลกขยับขึ้นต่อเนื่อง พุ่งมาจากฟาร์มร่วม 20 บาทต่อกก.แล้ว ขายปลีกเฉลี่ยกก.ละ 150 บาท เขียงหมูบอกยอดซื้อเท่าเดิม กระทบผู้บริโภครายได้น้อย ส่วนพ่อค้าแม่ค้าขายอาหารรับกระทบต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่ต้องขายอาหารสำเร็จรูปในราคาเดิม ต้นทุนเพิ่มขึ้นทุกอย่างทั้งหมู น้ำมันพืช มะพร้าว ขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดพิษณุโลกออกตรวจราคาสินค้า กำชับพ่อค้าแม่ค้าไม่ให้ขายเกินราคาตามป้ายที่กำหนด

วันที่ 14 มกราคม 2563 ผู้สื่อข่าวสำรวจราคาขายปลีกหมูสด ในตลาดสดเขตเทศบาลนครพิษณุโลก หลังจากราคาขายเนื้อหมู ได้ปรับราคาเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ครั้งละ 5-10 บาทต่อกิโลกรัม กระทั่งล่าสุด ราคาได้ปรับเพิ่มมากิโลกรัมละ 20 บาทแล้ว เมื่อเทียบกับราคาหมูเมื่อเดือนก่อน

ที่ตลาดร่วมใจ ตลาดเทศบาล 6 อ.เมือง จ.พิษณุโลก เขียงหมูต่าง ๆ ได้ติดราคาจำหน่ายเนื้อหมูประจำวันให้ลูกค้าทราบเป็นราคาที่เขียงหมูบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ราคาหมูได้ปรับขึ้นมากกว่าปีที่แล้ว ในช่วงเดียวกันก่อนถึงเทศกาลตรุษจีน ราคาวันนี้ นายสมหมาย สัวกิตติกุล เจ้าของร้านโกตาหมูสด ตลาดพิษณุโลกร่วมใจ อาคาร 1 กล่าวว่า ตนเชื่อว่าในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้ ประชาชนอาจซื้อหมูในปริมาณที่ลดลง หลังจากราคาหมูเป็นหน้าฟาร์ม ยังปรับราคาสูงขึ้นจากเดิมกิโลกรัมละ 53-55 บาท ปัจจุบันหมูเป็นหน้าฟาร์มปรับราคาเป็นกิโลกรัมละ 87 บาทแล้ว ส่งผลให้เขียงหมูต้องปรับราคาสูงขึ้นโดยพยายามไม่ปรับราคาสูงเกินด้วยเป็นห่วงผู้บริโภค ซึ่งการปรับราคาส่งผลให้ลูกค้าบ่นว่าหมูแพง ลดปริมาณการซื้อลงขณะที่ราคาหมูเนื้อแดง สันนอก อยู่ที่กิโลกรัมละ 150 บาท หมูสามชั้น กิโลกรัมละ 160 บาท สะโพก ก.ก. ละ 140 บาทหัวหมูหัวละ 250-300 บาท ซึ่งจากการปรับราคาทำให้ลูกค้าบางรายต้องซื้อหมูน้อยลง

ด้านพ่อค้าเขียงหมูร้านเจ๊ใหม่บอกว่า ยอดขายทรงตัว แม้ว่าราคาหมูจะขยับเพิ่ม เพราะร้านตนจำหน่ายให้ผู้ประกอบการร้านอาหารเป็นส่วนใหญ่ แต่ที่กระทบที่เห็นได้ชัดเลยคือผู้บริโภครายย่อย ลูกค้าขาประจำทั่วไปที่มีรายได้ไม่มาก จากที่เคยมาซื้อไปบริโภค 1-2 ขีด ช่วงนี้ก็หายไปเลย ต่างบอกว่าไปซื้ออาหารสำเร็จรูป หรือ กับข้าวถุงเลยดีกว่า ซื้อหมูไปทำอาหารเองได้ไม่มาก

ด้านน.ส.ยุพาภรณ์ ส้มลิ้ม ผู้อำนวยการกลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดพิษณุโลก พร้อมคณะ เดินตรวจสอบสถานการณ์ราคาสินค้าที่ตลาดสดร่วมใจ โดยเฉพาะเขียงหมู หลังพบว่ามีการปรับราคาต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันราคายังไม่นิ่ง โดยมีแนวโน้มหมูเป็นจะสูงถึงกิโลกรัมละ 90 บาท ขยับเพิ่มขึ้นจากราคาเดิมกิโลกรัมละ 30-40 บาท ส่งผลให้ราคาหมูสันนอกหมูเนื้อแดงหน้าเขียง จากเดิมกิโลกรัมละ 100-110 บาท ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 150-160 บาท

น.ส.ยุพาภรณ์ ส้มลิ้ม ผู้อำนวยการกลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ทางพาณิชย์จังหวัดพิษณุโลก ได้ออกตรวจราคาสินค้า โดยเฉพาะเขียงหมู หลังราคาหมูเป็นปรับราคาสูงขึ้น สาเหตุจากสภาพอากาศร้อน ประกอบกับใกล้เทศกาลตรุษจีน ซึ่งความต้องการใช้เนื้อหมูเพิ่มขึ้น ขณะที่เกษตรกรผู้เลี้ยงหมู ปรับลดปริมาณการเลี้ยง เนื่องจากปีที่ผ่านมามีการเลี้ยงหมูล้นตลาด ราคาถูก ทำให้ปีนี้ปริมาณหมูออกสู่ตลาดลดลงราคาช่วงนี้จึงสูงขึ้น เพื่อป้องกันผู้ปริโภคถูกเอาลัดเอาเปรียบจึงได้มาสอบถามเขียงหมู พร้อมเน้นย้ำขอความร่วมมือผู้ประกอบการขายสินค้าตามราคาที่ติดป้ายไว้ พร้อมกับติดป้ายแสดงราคาสินค้าให้ชัดเจนด้วย อย่างไรก็ตาม ในช่วงเทศกาลตรุษจีนจะได้มีการออกตรวจเข้มงวด เพื่อควบคุมราคาสินค้าและป้องกันการฉวยโอกาสปรับราคาสูงเกินจริง เพื่อเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภคอีกครั้ง

ขณะที่ตลาดใต้ ตลาดเทศบาล 1 อ.เมือง จ.พิษณุโลก ผู้ประกอบการเขียงหมูบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ราคาหมูเป็นจากฟาร์ม ได้ปรับราคาขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเกือบหนึ่งเดือนแล้ว ทำให้ราคาขายปลีกเนื้อหมู หมูสามชั้น และชิ้นส่วนต่าง ๆ ของหมูในตลาดสด ต้องปรับราคาเพิ่มตาม แต่ละเขียงจำหน่ายในราคาใกล้เคียงกัน เป็นราคาที่ขยับขึ้นมาจากฟาร์ม จากเดิมหมูเป็นฟาร์มมาขายกก.ละ 70 บาท ได้ปรับเพิ่มมาขายหมูเป็นกก.ละ 90 บาท ทำให้ราคาเนื้อหมูขายปลีกในตลาดสดปัจจุบันจึงอยู่ที่ กก.ละ 150 บาท หมูสามชั้นขายปลีกกก.ละ 150 บาท เป็นต้น

ขณะที่ผู้ประกอบการขายอาหารสำเร็จรูปที่ตลาดใต้ ที่ปรุงอาหารหลากหลายเมนูในแต่ละวันร่วม 20 อย่าง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ต้นทุนช่วงนี้แพงขึ้นทุกอย่าง ทั้งเนื้อหมู หมูสามชั้น ที่ขึ้นมากิโลกรัมละ 150 บาทแล้ว จากเดิมเคยซื้อกิโลกรัมละ 130 บาท น้ำมันพืชก็ขยับราคาขึ้นมามากเคยซื้อลิตรละ 25 บาท ขณะนี้ปรับมาเป็น 40 กว่าบาทแล้ว มะพร้าวจากกก.ละ 60 บาท ก็ขึ้นมากก.ละ 80 บาทแล้ว และอาหารที่ทำขายส่วนใหญ่ ก็มีหมูเป็นส่วนประกอบหลัก อาทิ ต้มจืด แกงพะแนง ผัดต่าง ๆ แต่ก็ต้องขายในราคาเดิมคือถุงละ 30 บาท

………………………………………………………………………………..
ธเนส อนุดิษฐ/พิษณุโลก
0966652236