พ.อ.รุ่งคุณ มหาปัญญาวงศ์ โฆษกกองทัพภาคที่ ๓ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๓ พร้อมด้วย พ.ท.ทรงสิทธิ์ รอดสการ รองโฆษกกองทัพภาคที่ ๓ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๓ ร่วมกันแถลงข่าวผลการดำเนินงานในภารกิจที่สำคัญของกองทัพภาคที่ ๓

*** วันจันทร์ที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๒ เวลา ๐๙.๐๐ น. ที่ หอประชุมวัชรนารี โรงเรียน กำแพงเพชรพิทยาคม อำเภอ เมือง จังหวัด กำแพงเพชร พ.อ.รุ่งคุณ มหาปัญญาวงศ์ โฆษกกองทัพภาคที่ ๓ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๓ พร้อมด้วย พ.ท.ทรงสิทธิ์ รอดสการ รองโฆษกกองทัพภาคที่ ๓ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๓ ร่วมกันแถลงข่าวผลการดำเนินงานในภารกิจที่สำคัญของกองทัพภาคที่ ๓

กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๓ โดยมี พล.ท.ธวัช ศรีสว่าง ที่ปรึกษาแม่ทัพภาคที่ ๓ พ.อ.ธำรงศักดิ์ บุญทักษ์ รองหัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองทัพภาคที่ ๓ และคณะสื่อมวลชน จังหวัดกำแพงเพชร ร่วมรับฟัง การแถลงข่าว และทำข่าว จำนวน 6 เรื่อง ดังนี้ เรื่องที่ 1 การสร้างแกนนำนักศึกษาวิชาทหาร เครือข่ายข่าวเพื่อความมั่นคง และการเฝ้าระวังข่าวปลอม ( Fake News) ใน พื้นที่ภาคเหนือ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มอบหมายให้ กระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) จัดตั้งศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม (Anti-Fake News Center ) ตั้งแต่ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 เป็นต้นมา โดยเน้นข่าวที่มีผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง กระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินประชาชน คาดหวังให้เกิดการรับรู้ข้อมูลที่ถูกต้อง และ เผยแพร่ต่อ อย่างรู้เท่าทันสื่อ

โดยมีการติดตาม ตรวจสอบข้อมูลที่เผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์และระบบอินเตอร์เน็ต พร้อมวิเคราะห์แนวโน้ม และ บ่งชี้ข้อมูลที่เป็นข่าวปลอม ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อ ตรวจสอบข้อมูล ผลิตข้อมูลที่ถูกต้อง ขจัดปัญหาข้อมูลอันเป็นเท็จ ก่อเกิดผลกระทบที่เป็นกระแสข่าวลือ บั่นทอนความมั่นคงในสังคมไทย เรื่องที่ 2 แม่ทัพภาคที่ ๓ เดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เรื่องที่ 3 การจับกุมยาเสพติด ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองทัพภาคที่ ๓ ได้มีนโยบายให้มีการบูรณาการงานด้านการข่าวเพื่อความมั่นคงของพลเรือน ตำรวจ ทหารและทุกภาคส่วน ในการดำเนินการสกัดกั้นปราบปรามและจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดอย่างจริงจัง ตั้งแต่พื้นที่แนวชายแดนจนถึงพื้นที่ตอนในของประเทศ เรื่องที่ 4 การเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่ เรื่องที่ 5 สถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ เรื่องที่ 6 การพัฒนาสระสองห้อง โบราณสถานเคียงคู่พระราชวังจันทน์ กองทัพภาคที่ ๓ ร่วมกับ จังหวัดพิษณุโลก สำนักศิลปากรที่ 6 สุโขทัย และองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ได้เข้าร่วมกันในการดำเนินการ โครงการอนุรักษ์และพัฒนาพระราชวังจันทน์ ซึ่งเป็นโบราณสถาน ที่สำคัญของชาติและเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเมืองพิษณุโลก เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้เข้ามาเรียนรู้ ศึกษาประวัติศาสตร์ และรับชมโบราณสถาน ซึ่งประกอบด้วย เขตพระราชฐาน พระราชวังจันทน์ และวัดในเขตพระราชฐานของวังจันทร์ได้แก่วัดศรีสุคต วัดวิหารทอง และวัดโพธิ์ทอง นอกจากนี้แล้ว ความงดงามของพระราชวังจันทน์ในอดีต ยังประกอบด้วย สถาปัตยกรรม ของหมู่ พระมหามณเฑียร วิหาร พระเจดีย์ พืชพันธุ์ไม้และสระสองห้อง จากคำบอกเล่าเชิงมุขปาฐะ ของนักประวัติศาสตร์ท้องถิ่นชาวพิษณุโลก ได้กล่าวถึงสระสองห้อง ซึ่งเป็นสระน้ำโบราณสวยงามเคียงคู่พระราชวังจันทน์ ในอดีต ราวพุทธศตวรรษที่ 21 ถึง 23 ได้มีการผันน้ำจากแม่น้ำน่านเข้าสู่คลองมะดัน ก่อนจะผันลงสู่สระสองห้องซึ่งเป็นแหล่งน้ำในเขตพระราชฐาน งดงามด้วยเหล่าบัวสี ต่อมาเมื่อพระราชวังจันทน์ถูกทิ้งร้างจากภัยสงครามและการใช้ประโยชน์ของเมืองพิษณุโลกที่เปลี่ยนแปลงไปจึงทำให้คลองมะดันตื้นเขินและไม่สามารถผันน้ำเข้าสู่สระสองห้องได้อีกเช่นเดิม กองทัพภาคที่ ๓ ได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำพลังงานไฟฟ้าและพลังงานแสงอาทิตย์ พร้อมการวางท่อ สูบน้ำจากแม่น้ำน่านทางคลองมะดันลงสู่สระสองห้อง พัฒนาให้เกิดความสง่างามของสระสองห้องให้เคียงคู่โบราณสถานพระราชวังจันทน์ เพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเมืองพิษณุโลกและชาวไทยทุกคนสืบต่อไป.

..# ภาพข่าว..โจ กองทัพภาค ๓ ร่วมเสนอข่าวโดย นิตยสารตำรวจสถานีประชาชนจังหวัดเพชรบูรณ์.นาย บุรฉัตร ศิริวัฒนาเกษม