ผบ.ฉก.นราลงเน้นย้ำคุมเข้มช่องทางธรรมชาติหลังโควิดระบาดหนักในมาเลย์

นราธิวาส/ภาพ/นูอารีซ๊ะ ยะยือริ

ผบ.ฉก.นราลงเน้นย้ำคุมเข้มช่องทางธรรมชาติหลังโควิดระบาดหนักในมาเลย์

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 10 ต.ค. 63 พล.ต.ไพศาล หนูสังข์ ผบ.ฉก.นราธิวาส ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและเน้นย้ำกำลังพล 3 กองร้อย ณ ฐานปฏิบัติการกองร้อยป้องกันชายแดนที่ 1 ถึง 3 ณ พื้นที่ อ.ตากใบ อ.แว้งและสุไหงโก-ลก เพื่อเน้นย้ำเจ้าหน้าที่กองกำลังที่ถูกส่งตัวมาปฏิบัติภารกิจ ตามช่องทางธรรมชาติ ที่มีระยะทางยาวกว่า 90 ก.ม. มีความเข้มงวดกวดขันบุคคลที่จะลักลอบข้ามแดนจากพื้นที่รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย หลังจากที่ประเทศมาเลเซียมีการแพร่ระบาดอย่างหนักของเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด 19 ในละลอกที่ 2 ที่มีสถิติพบผู้ติดเชื้อในแต่ละวันทั่วประเทศกว่า 300 คน และได้เสียชีวิตไปแล้ว 152 คน

โดยในที่ประชุม พล.ต.ไพศาล หนูสังข์ ผบ.ฉก.นราธิวาส ได้กล่าวสรุปต่อผู้บังคับกองร้อยป้องกันชายแดนทั้ง 3 ชุด จัดกำลังพลคุมพื้นที่ช่องทางธรรมชาติตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะในช่องเวลากลางคืนซึ่งในช่วงที่ผ่านมา สามารถจับกุมบุคคลต่างด้าวและชาวมาเลเซีย รวมถึงชาวบ้านไทยบางส่วน มีการแอบว่าจ้างเรือยนต์ข้ามฟากนั่งโดยสารเล็ดรอดข้ามมาฝั่งไทย ซึ่งเสี่ยงต่อการนำเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด 19 มาแพร่ระบาดในพื้นที่ ซึ่งยากต่อการควบคุมโรคและอาจจะส่งผลทำให้ในพื้นที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด 19 ในละลอกที่ 2

ซึ่งก่อนเดินทางกลับ พล.ต.ไพศาล หนูสังข์ ผบ.ฉก.นราธิวาส ได้มอบอาหารสำเร็จรูปและเครื่องดื่มให้กับกำลังพล เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมทั้งได้มีการทักทายกำลังพลถึงปัญหาอุปสรรคในการทำงาน ซึ่งทุกนายมีขวัญกำลังใจที่จะปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ลุล่วงตามเป้าหมายที่วางไว้

ด้าน พล.ต.ไพศาล หนูสังข์ ผบ.ฉก.นราธิวาส กล่าวว่า มาดูความเรียบร้อยและเน้นย้ำการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กองกำลัง หลังจากพบว่าประเทศมาเลเซียมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัศโควิด 19 มากขึ้น เพื่อเน้นย้ำหน่วยให้เพิ่มความเข้มงวด ในการสกัดกั้นการลักลอบข้ามแดนตามช่องทางธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นคนไทยในมาเลเซียที่ไม่ผ่านกระบวนการคัดกรอง รวมไปถึงแรงงานต่างด้าวที่อยู่ในมาเลเซีย ที่มีการลักลอบเข้ามาซึ่งเราสามารถจับกุมตัวได้หลายครั้ง