ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติย้ำตำรวจพร้อมหน่วยงานความมั่นคงกำลังขยายผลหาตัวผู้ก่อเหตุระเบิดหลายจุดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พร้อมฝากประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติย้ำตำรวจพร้อมหน่วยงานความมั่นคงกำลังขยายผลหาตัวผู้ก่อเหตุระเบิดหลายจุดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พร้อมฝากประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา

พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานแถลงข่าวกรณีเหตุระเบิดและเหตุเพลิงไหม้หลายจุดในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และจังหวัดนนทบุรี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยยืนยันตำรวจทำคดีอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศ ซึ่งทั้ง 2 คนร้ายที่ก่อเหตุวางระเบิดที่บริเวณหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ถูกจับกุม ได้แก่ นาย ลูไอ แซแง และ นาย วิลดัน มาหะ โดยจับกุมได้ที่จุดตรวจปฐมพร จังหวัดชุมพร จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ให้การเป็นประโยชน์ แต่ระบุได้เพียงว่าอยู่ในระดับปฏิบัติการและมีการเตรียมการมาเป็นอย่างดี จากการเตรียมชุดมาเปลี่ยนถึง 5 ชุด ประกอบด้วยหมวก 5 ใบ เสื้อ 5 ตัว กางเกง 5 ตัว รองเท้า 5 คู่ หมวก 5 ใบ แว่นตา 5 อัน หลังก่อเหตุ จากการตรวจสอบพบเคยมีประวัติเคยร่วมก่อเหตุโจมตีฐานนาวิกโยธิน ที่จังหวัดนราธิวาส เมื่อปี 2556 ทั้งนี้ การกระทำของคนร้ายมีลักษณะเป็นขบวนการแบ่งหน้าที่การลงมือทำ มีการอำพรางตัวเข้าไปก่อเหตุ โดยมีผู้ร่วมขบวนการในการก่อเหตุไม่น้อยกว่า 15 คน ยังไม่รวมถึงผู้ที่ให้การสนับสนุน หรือผู้ที่อยู่ในระดับการวางแผนสั่งการต่างๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคง กำลังขยายผลจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุที่เหลือ พร้อมกันนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติฝากประชาสัมพันธ์ถึงพี่น้องประชาชน หากพบบุคลคลต้องสงสัย สวมใส่เครื่องแต่งกาย สวมหมวกใส่ผ้าปิดจมูก หรือสวมหน้ากากอนามัย อันเป็นการแต่งกายในลักษณะอำพรางตัว ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจุดต่างๆ หรือโทรศัพท์แจ้งกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล หมายเลขโทรศัพท์ 02-354-5249 หรือโทรแจ้งสายด่วน 191 หรือได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ด้าน พลตำรวจโท สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน กล่าวว่า จากการสืบสวนสอบสวน พบว่าจากกรณีเกิดเหตุหลายจุด พบมีอุปกรณ์ 2 ประเภทที่ใช้ ตัวหนึ่งเป็นระเบิด อีกส่วนเป็นอุปกรณ์ทำให้เกิดเพลิงไหม้ จากการทำงานร่วมกับหน่วยความมั่นคง ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 2 ราย ส่วนที่เหลือกำลังขยายผล โดยเร่งหาพยานหลักฐานและหาตัวผู้ก่อเหตุ ทั้งนี้ เชื่อว่า ขบวนการที่ก่อเหตุนี้ แบ่งเป็น 4 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มคนกำหนดยุทธศาสตร์ ,กลุ่มคนวางแผน สั่งการ กำหนดขั้นตอน วิธีการปฏิบัติ การสรรหาคน , กลุ่มคนช่วยเหลือสนับสนุน ทั้งก่อน ขณะ หลังเกิดเหตุ และกลุ่มผู้ลงมือปฏิบัติ แต่จากการสืบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ที่จับกุมได้ พบว่าเป็นกลุ่มผู้ปฏิบัติ และเชื่อว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุมากกว่า 15 คน ซึ่งตำรวจมีพยานหลักฐาน หลายอย่างประกอบ ยืนยันตัวผู้กระทำผิด