กาฬสินธุ์พบต้นตำรับข้าวหลาม 30 ปีสองตายายขายนักท่องเที่ยว

กาฬสินธุ์พบต้นตำรับข้าวหลาม 30 ปีสองตายายขายนักท่องเที่ยว

พบสองตายายชาวอำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ ทำข้าวหลามสูตรโบราณขายนักท่องเที่ยวตลอดปี มีลูกค้าขาประจำตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ถึงรุ่นลูกติดหนึบตลอดระยะเวลา 30 ปี ล่าสุดฉีกแนวเพิ่มสูตรใหม่ เอาใจคนชอบผลไม้ตามฤดูกาล ทำข้าวหลามไส้ทุเรียนขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เผยหน้าลำไยยังจะทำข้าวหลามไส้ลำไย เพื่อเพิ่มรสชาติข้าวหลามแปลกใหม่ ไม่ซ้ำแบบใคร ให้ลูกค้าซื้อรับประทานราคาประหยัด เพียงบั้งละ 20-50 บาท และ 3 บั้ง 100 เท่านั้น
เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการติดตามบรรยากาศการประกอบอาชีพของประชาชน ในช่วงสถานการณ์ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และเข้าสู่ผ่อนปรนระยะ 3 พบว่าบรรยากาศทั่วไปเริ่มผ่อนคลายในทิศทางที่ดี ประชาชน นักท่องเที่ยว มีการเดินทางและจับจ่ายใช้สอยกันมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์
โดยที่บริเวณริมถนนด้านหน้าโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว ก่อนที่จะถึงแหล่งท่องเที่ยวหาดดอกเกดและจุดผันน้ำ เขื่อนลำปาว บ้านสะอาดนาทม ต.ลำคลอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ มีประชาชนและนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ จอดรถแวะซื้อข้าวหลามผลิตภัณฑ์ชุมชนประจำถิ่นเป็นจำนวนมาก บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก โดยเฉพาะข้าวหลามสูตรโบราณ

นายคำรณ ผากา อายุ 66 ปี บ้านเลขที่ 132 หมู่ 1 บ้านสะอาดนาทม กล่าวว่า ตนกับนางปราณี ผากา อายุ 64 ปี ภรรยา ทำข้าวหลามมาประมาณ 30 ปี ทั้งนี้ เพื่อจำหน่ายให้กับเพื่อนบ้านและนักท่องเที่ยว ที่เดินทางมาเที่ยวหาดดอกเกด เขื่อนลำปาวและจุดผันน้ำ โดยใช้ไม้ไผ่พันธุ์ไม้ไผ่หนามหรือไม้ไผ่ป่าใหญ่ อายุ 1-3 ปี ซึ่งสามารถทำข้าวหลามได้ตลอดปี ไม่เลือกฤดูกาล ขณะที่ส่วนใหญ่ชาวบ้านจะทำกินในครัวเรือนเฉพาะฤดูหนาวและข้าวใหม่เท่านั้น
นายคำรณกล่าวต่อว่า การทำข้าวหลามของตนจะใช้ข้าวเหนียวเขาวง ซึ่งมีรสชาติหอม นุ่ม เหนียว ทำสูตรดั้งเดิมหลายรส เช่น ข้าวเหนียวขาว ข้าวเหนียวดำ ต่อมามีการปรับปรุงรสชาติเข้ามาใหม่ เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้า เช่น ข้าวหลามดอกอัญชัน ข้าวหลามใบเตย และล่าสุดข้าวหลามทุเรียน ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จำหน่ายตั้งแต่ราคาบั้งละ 20-50 บาท และ 3 บั้ง 100 บาท

นายคำรณกล่าวอีกว่า ก่อนเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ขายข้าวหลามได้วันละประมาณ 200-500 บั้ง แต่หลังจากเกิดสถานการณ์ดังกล่าว ไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทาง และลูกค้าอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ยอดขายจึงตก ขายได้เพียงวันละ 100-150 บั้งเท่านั้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อรายได้ ที่ลดลงจากเดิมมาก แต่ก็ไม่ถือว่าขาดทุน เพราะต้นทุนการผลิตต่ำ ข้าวที่ใช้ทำข้าวหลามก็ปลูกเอง โดยไม่ต้องซื้อ ส่วนที่ซื้อคือไม้ไผ่ กะทิ น้ำตาล และส่วนผสมบ้าง โดย ลงทุนครั้งละ 1,500 บาท แต่ขายได้กำไรประมาณ 5,000 บาท โดยที่ผ่านมาจะเน้นวันเสาร์-อาทิตย์ ข้าวหลามของเราจึงเป็นข้าวหลามสด ไม่มีตกค้าง เพราะคำนึงถึงคุณภาพเป็นหลัก จึงสามารถยืนหยัดมาถึง 30 ปี และมีลูกค้าตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่และรุ่นลูกเป็นขาประจำมาถึงทุกวันนี้ อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เพิ่มสูตรใหม่คือข้าวหลามสูตรทุเนียน ได้รับการตอบรับจากลุกค้าเป็นอย่างมาก ซึ่งในช่วงต่อไปถึงฤดูกาลลำไยออกผลผลิต ก็จะเพิ่มข้าวหลามสูตรลำไยเพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้าคอข้าวหลามด้วย