สงขลา-สะเดา จนท.สนธิกำลังร่วมหลายหน่วยงานจับกุมใบพืชกระท่อมออนไลน์รับส่งผ่านทางพัสดุไปรษณีย์ยคกของกวาง36กล่อง พร้อมผู้ต้องหา1ราย

สงขลา-สะเดา จนท.สนธิกำลังร่วมหลายหน่วยงานจับกุมใบพืชกระท่อมออนไลน์รับส่งผ่านทางพัสดุไปรษณีย์ยคกของกวาง36กล่อง พร้อมผู้ต้องหา1ราย

เจ้าหน้าที่สนธิกำลังตรวจสอบร้านรับส่งพัสดุไปรษณีย์ 2 แห่ง ภายในเขตเทศบาลตำบลปาดังเบซาร์ อ.สะเดา ชายแดนไทย-มาเลเซีย พบกล่องพัสดุบรรจุใบกระท่อม 36 กล่อง รวมน้ำหนักกว่า 200 กิโลกรัม หลังขายผลสามรถติดตามจับกุมตัวผู้ส่งได้ทันที พบมีการเปิดกลุ่มลับเฟซบุ๊คขึ้นมาเฉพาะ และเมื่อตกลงกันได้ก็จะมีการจัดส่งทางไปรษณีย์
วันที่ 2 พ.ค. 62 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสำนักปราบปรามยาเสพติด ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดขยายผลคดียาเสพติด ภ.จว.สงขลา ทหารชุดปฏิบัติการภัยแทรกซ้อน เจ้าหน้าที่ทหาร กอ.รมน.จว.สงขลา และ ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 สนธิกำลังเข้าตรวจสอบภายในร้านรับส่งพัสดุไปรษณีย์ จำนวน 2 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ภายในเขตเทศบาลตำบลปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา พื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย หลังจากสืบทราบมาว่า มีการลักลอบส่งยาเสพติดผ่านทางพัสดุไปรษณีย์ และมีต้นทางมาจากในพื้นที่ดังกล่าว

โดยจากการตรวจสอบอย่างละเอียดทั้ง 2 ร้าน พบว่า มีพัสดุจำนวน 36 กล่อง ซึ่งภายในบรรจุพืชใบกระท่อมเอาไว้รวมน้ำหนักกว่า 200 กิโลกรัม จึงตรวจยึดเอาไว้ และสอบสวนขยายผลจนกระทั่งทราบว่า กลี่องพัสดุทั้งหมดนั้นถูกส่งมาโดย นายเลิศศักดิ์ ยอดใย อายุ 21 ปี ซึ่งมาเช่าบ้านพักหลังหนึ่งอยู่ในย่านย่าน ถ.เขารูปช้าง เขตเทศบาลตำบลปาดังเบซาร์ ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ไกลจากร้านรับส่งพัสดุ จึงตามไปจับกุมตัวเอาไว้ได้
จากการสอบสวน นายเลิศศักดิ์ ให้การว่า ได้ลักลอบส่งขายพืชใบกระท่อมทางพัสดุไปรษณีย์มานานหลายเดือนแล้ว โดยมีการติดต่อขอซื้อใบกระท่อมจากประเทศเพื่อนบ้านมาในราคากิโลกรัมละ 350 บาท และจะนำไปขายต่อให้กับกลุ่มลูกค้าในราคากิโลกรัมละ 700 บาท โดยมีการเปิดกลุ่มเฟซบุ๊คที่ตั้งเอาไว้เป็นกลุ่มปิดลับเฉาะสำหรับสมาชิกเท่านั้น และเมื่อตกลงราคากันได้ก็จะมีการจัดส่งกันทางไปรษณีย์ โดยลูกค้ามีอยู่ในหลากหลายพื้นที่
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา ดำเนินคดีในข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (พืชกระท่อม) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และสอบสวนขยายผลไปยังที่มาที่ไปของการซื้อขายยาเสพติดเหล่านี้ต่อไป

ภาพ/ข่าว มณีรัตน์ แก้ววิเชียร ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสงขลา