นวัตกรรมกรมวิชาการเกษตรสุดเจ๋ง คว้ารางวัลเลิศรัฐจาก กพร.

นวัตกรรมกรมวิชาการเกษตรสุดเจ๋ง คว้ารางวัลเลิศรัฐจาก กพร.

กรมวิชาการเกษตร ปลื้ม! ผลงานวิจัย “นวัตกรรมเครื่องพ่นสารป้องกันกำจัดหนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุดแบบใช้แรงลม” คว้ารางวัลเลิศรัฐปี 2565 ประเภทนวัตกรรมการบริการจาก กพร. ชูจุดเด่นผลงานแก้ปัญหาให้กับเกษตรกรตรงจุด พลิกนวัตกรรมการพ่นสารแบบคานหัวฉีดของประเทศไทยแก้ปัญหาการระบาดของหนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุดกว่า 1 ล้านไร่ทั่วประเทศ เป็นเครื่องแรกที่ผลิตในประเทศไทย

นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า สถาบันวิจัยเกษตรวิศวกรรม เป็นหน่วยงานวิจัยด้านเครื่องจักรกลการเกษตร ของกรมวิชาการเกษตร ซึ่งในปี 2565 นี้มีผลงานที่ได้รับรางวัลเลิศรัฐ ประเภทนวัตกรรมการบริการประจำปี 2565 จากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.) ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้หน่วยงานของรัฐที่มีผลการพัฒนาคุณภาพการให้บริการเพื่อประชาชนได้รับการบริการที่สะดวก รวดเร็ว โปร่งใส และ เป็นธรรม และเป็นที่พึงพอใจ โดยผลงานที่ได้รับรางวัล คือเรื่อง “นวัตกรรมเครื่องพ่นสารป้องกันกำจัดหนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุดแบบใช้แรงลม” ผลงานวิจัยของนายยุทธนา เครือหาญชาญพงค์ วิศวกรการเกษตรชำนาญการพิเศษ สถาบันวิจัยเกษตรวิศวกรรม

สำหรับรางวัลที่จะเสนอขอรับรางวัลเลิศรัฐในประเภทนวัตกรรมการบริการนั้น ต้องเป็นผลงานใหม่ซึ่งยังไม่มีหน่วยงานใดเคยดำเนินการมาก่อน หรือเป็นผลงานที่เกิดขึ้นจากการประยุกต์ใช้สิ่งที่มีอยู่จนเกิดนวัตกรรมต่อเนื่องในการให้บริการของหน่วยงาน โดยเครื่องพ่นสารป้องกันกำจัดหนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุดแบบใช้แรงลม ถือเป็นการพลิกนวัตกรรมการพ่นสารแบบคานหัวฉีดของประเทศไทย ซึ่งเครื่องพ่นสารป้องกันกำจัดหนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุดแบบใช้แรงลม เป็นนวัตกรรมที่คิดค้นขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาการระบาดของหนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุดกว่า 1 ล้านไร่ทั่วประเทศ

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า การพ่นสารแบบเดิมด้วยเครื่องพ่นแบบสะพายหลังแบบใช้แรงงานคนเดินพ่น เป็นการพ่นที่มีประสิทธิภาพต่ำ ความสามารถในการพ่นเพียง 1 ไร่ต่อชั่วโมง ไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของหนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุดได้ทันท่วงที สถาบันวิจัยเกษตรวิศวกรรมจึงได้ทำการออกแบบและพัฒนาเครื่องพ่นแบบใช้แรงลมช่วย ซึ่งช่วยกระจายละอองฝอยของสารที่ออกจากหัวฉีดไปโดนตัวหนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุดที่หลบซ่อนอยู่ในกรวยใบ หรือใต้ใบได้โดยตรง โดยอาศัยหลักการของลมที่ช่วยให้เกิดการพลิกของใบข้าวโพดทำให้สารออกฤทธิ์ทั้งสารเคมีและชีวภัณฑ์ สามารถแทรกซอนบริเวณใต้ใบพืชและในกรวยข้าวโพดได้โดยง่าย ซึ่งการใช้แรงลมช่วยนี้ไม่มีในเครื่องพ่นสารแบบคานหัวฉีดที่เกษตรกรใช้ในปัจจุบัน จึงสามารถกล่าวได้ว่าเป็นเครื่องแรกที่ผลิตในประเทศไทย โดยเครื่องพ่นสารแบบคานหัวฉีดชนิดใช้แรงลมช่วยสามารถพ่นได้รวดเร็ว 20 ไร่ / ชั่วโมง และสามารถพ่นได้ตั้งแต่ข้าวโพดอายุ 7 วันจนถึงข้าวโพดติดฝัก

นวัตกรรมการบริการใหม่นี้ เป็นการพ่นแบบใช้น้ำน้อย และช่วยให้ละอองสารมีความสม่ำเสมอมากกว่าการพ่นจากคานหัวฉีดแบบน้ำมาก รวมทั้งอัตราการพ่นที่น้อยกว่าทำให้สามารถปฏิบัติงานพ่นสารได้รวดเร็วกว่า สามารถลดจำนวนครั้งในการผสมและการเติมสาร เมื่อเทียบในปริมาณน้ำในถังพ่นสารที่เท่ากัน เครื่องพ่นสารแบบใช้ลมช่วยสามารถพ่นได้พื้นที่ที่มากกว่าถึง 2 เท่า ช่วยลดการใช้น้ำในการพ่นสารได้มากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ และลดปริมาณสารเคมีและชีวภัณฑ์ลงได้ 20 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งจากการทำงานที่รวดเร็วยังมีส่วนช่วยในการลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงจากรถแทรกเตอร์ได้มากกว่า 30 เปอร์เซ็นต์

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวในตอนท้ายว่า เครื่องพ่นสารแบบคานหัวฉีดชนิดใช้แรงลมช่วยเพื่อกำจัดหนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุด เป็นการแก้ปัญหาให้กับเกษตรกรได้อย่างตรงจุดเพราะสามารถพ่นป้องกันกำจัดการระบาดของหนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยขณะนี้ได้มีนำเครื่องพ่นสารแบบคานหัวฉีดชนิดใช้แรงลมช่วยนำไปใช้กำจัดศัตรูพืชในนาข้าว ถั่วเหลือง ถั่วเขียว และทานตะวัน ซึ่งพืชอื่นที่มีการขยายผลสามารถพ่นได้ในทุกระยะการเจริญเติบโต รวมทั้งนวัตกรรมบริการที่ได้รับรางวัลดังกล่าวนี้สามารถพ่นได้ทั้งสารเคมีและสารชีวภัณฑ์ตามคำแนะนำของกรมวิชาการเกษตร ปัจจุบันมีบริษัทเอกชน 2 บริษัทรับต้นแบบจากกรมวิชาการเกษตร ไปผลิตจำหน่ายในเชิงพาณิชย์เพื่อกระจายนวัตกรรมบริการใหม่นี้ไปสู่เกษตรกรอย่างกว้างขวาง โดยกรมวิชาการเกษตรจะเข้ารับรางวัลเลิศรัฐ ประเภทรางวัลนวัตกรรมการบริการ ระดับดี จากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ในวันที่ 12 กันยายน 2565 นี้