จันทบุรี-ขบวนการพาคนต่างด้าวข้ามกลับประเทศยังระบาดหนักในพื้นที่จันทบุรี

จันทบุรี-ขบวนการพาคนต่างด้าวข้ามกลับประเทศยังระบาดหนักในพื้นที่จันทบุรี พบแรงงานกัมพูชาถูกหลอกสูญเงินรายละกว่า 3,000 บาท อ้างสามารถส่งถึงชายแดนได้โดยไม่ถูกจับ สุดท้ายถูกปล่อยทิ้งข้างทางให้ตำรวจจับกุม

ผู้สื่อข่าวลงพื้นสถานีตำรวจภูธรบ้านแปลง อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี พบแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา จำนวนกว่า 20 คนทั้งชายและหญิงถูกจับกุมนั่งรอผลักดันกลับประเทศหลังถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัว จากการสอบถามแรงงานต่างด้าวได้แจ้งว่าได้เดินทางเข้ามาเพื่อทำงานรับจ้างในสวนผลไม้และล้งผลไม้ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีและต่างจังหวัดใกล้เคียง โดยมีเอกสารถูกต้อง แต่มามีสถานการณการณ์โควิด19 ระบาด ทำให้นายจ้างไม่มีงานให้ทำ จึงมีความต้องการกลับประเทศกัมพูชาแต่ติดที่ด่านปิดไม่สามารถผ่านเข้าออกได้ แต่มีกลุ่มเพื่อนชาวกัมพูชาด้วยกันแนะนำว่าต้องว่าจ้างคนไทยมารับจ้างพากลับบ้าน โดยต้องเสียเงินให้กับคนไทยที่รับมาจำนวนคนละ 3,000 บาท โดยนัดรับในพื้นที่จังหวัดที่ทำงานอยู่ โดยใช้รถยนต์กระบะแบบ 4 ประตู รถยนต์เอนกประสงค์มารับ ครั้งละ1-2 คน ซึ่งจะมีการนัดรับในช่วงกลางคืน เมื่อถึงกำหนดวัน คนไทยจะขับรถมารับถึงจุดนับพบและจะให้นั่งในแคป หรือในส่วนท้ายของรถยนต์เอนกประสงค์ เมื่อถึงด่านทางคนขับจะให้นอนราบลง

และเปิดกระจกเฉพาะฝั่งคนขับและเปิดไฟในรถเหมือนปกติ เมื่อผ่านด่านมาจะให้ลุกขึ้นนั่งจนมาถึงหน้าตลาดได้ให้ลงจากรถและบอกให้เดินเท้าไปที่สถานีตำรวจ ทั้งที่ตกลงกันว่าจะส่งถึงชายแดน แต่ก็ไม่สามารถโต้แย้งได้ หลังขนของลงจากรถ คนไทยที่มาส่งก็รีบขับออกไปอย่างรวดเร็ว จนมาเจ้าหน้าที่ตำรวจผ่านมาพบจึงถูกจับในข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาหรืออยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายก่อนจะส่งผลักดันกลับประเทศ ซึ่งจากการสอบถามกับแรงงานกัมพูชาที่ถูกจับกุมเล่าว่าตนเองทำงานในสวนผลไม้ในพื้นที่จังหวัดระยอง ได้ว่าจ้างคนไทยด้วยเงิน 3,000 บาท ขับรถมาส่งที่ชายแดน แต่เมื่อมาถึงหน้าสภ.บ้านแปลงได้ถูกปล่อยให้ขนของลงจากรถ และบอกว่าให้เดินไปมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และได้ขับรถออกไปอย่างรวดเร็วตนเองจึงได้ดินข้ามถนนมานั่งรอจนเช้ามีเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบดังกล่าวและจากการสังเกตพบว่ายังมีกลุ่มแรงงานกัมพูชาอีกจำนวนหนึ่งได้ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมอยู่ก่อนหน้านี้และได้สอบถามจนทราบว่าเป็นคนงานล้งผลไม้ เมื่อหมดหน้าผลไม้นายจ้างได้พาขึ้นรถมาส่งทิ้งไว้ที่หน้าสภ.บ้านแปลงเช่นกัน ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลจากแรงงานต่างด้าวสรุปได้ว่ามีขบวนการการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวด้วยวิธีใช้รถยนต์ส่วนตัว แทนขนแรงงานมาเป็นจำนวนมาก ทำให้ยากต่อการตรวจสอบ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารนาวิกโยธิน ตำรวจภูธรโป่งน้ำร้อนและตำรวจตระเวนชายแดนที่ 11 ที่ประจำด่านตรวจเขาเกลือ ได้เพิ่มความเข้มในการตรวจค้นรถทุกคัน โดยเฉพาะรถยนต์เป้าหมายในการลักลอบขนแรงงานกลับประเทศ โดยเรียกตรวจรถทุกคันที่มีแรงงานต่างด้าวโดยสารมาด้วย พร้อมตรวจสอบประวัติการเดินทางว่ามาจากที่ใดจะไปที่ใด ตรวจสอบหนังสือเดินทางหรือบัตรสีชมพูเพื่อป้องกันการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่

ภาพ/ข่าว ดนุชเดช ทองเปรม ผู้สื่อข่าว จ.จันทบุรี
จรัล บรรยงคเสนา รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก