ด่านสุไหงโก-ลกคึกคักหลังอนุญาตให้นำรถเข้าออกระหว่างประเทศวันแรก

นราธิวาส/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ

ด่านสุไหงโก-ลกคึกคักหลังอนุญาตให้นำรถเข้าออกระหว่างประเทศวันแรก

รายงานข่าวความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับกรณีด่านศุลกากรทั้งไทยและมาเลเซีย อนุญาตให้บุคคลสามารถนำยานพาหนะเดินทางเข้าออกระหว่างประเทศเป็นวันแรก จากพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส แจ้งว่า บรรยากาศโดยรวมในช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยเฉพาะด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับเมืองรันตูปันยัง รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย หลังจากที่ได้เปิดด่านพรมแดนอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 พ.ค. 65 ที่ผ่านมา แบบมีเงื่อนไขโดยที่ยังไม่อนุญาตให้บุคคลทั้ง 2 ฟากฝั่งนำยานพาหนะเข้าออก พบว่าตลอดทั้งเดือนมีบุคคลเดินทางเข้าออกระหว่างประเทศ ประมาณ 3,500 คน ซึ่งในวันนี้เป็นวันแรกที่ให้บุคคลทั้ง 2 ฟากฝั่งสามารถนำยานพาหนะเข้าออกระหว่างประเทศได้ ทำให้บรรยากาศที่ด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก กลับมาคึกคักอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ทั้ง 2 ประเทศได้ประกาศปิดประเทศไปเมื่อวันที่ 18 มี.ค. 2563 หรือกว่า 2 ปี ที่ผ่านมา
ซึ่งในช่วงเช้าเวลา 07.00 น.ที่กำหนดเป็นเวลาเปิดด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก นายวัลลภ วุฒาพาณิชย์ นายด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก นางอัสมีนี เหมือนกู้ หัวหน้าด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศสุไหงโก-ลก

ได้ร่วมกันจัดเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจท่องเที่ยวและส่วนที่เกี่ยวข้อง ให้การบริการและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ที่มีความประสงค์เดินทางเข้าออกระหว่าง 2 ประเทศ ที่ต้องมีการแจ้งความประสงค์ผ่านแอพ THAILAND PASS ของฝั่งไทย กับแอพ MYSEJAHTERA ของประเทศมาเลเซีย โดยส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่จะเป็นผู้กรอกข้อความในแอพทั้ง 2 เนื่องจากติดขัดในเรื่องของภาษา แต่โดยรวมสถิติในช่วง 1 ชั่วโมง มีบุคคลซึ่งเป็นชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย ที่ได้เดินทางเข้ามาประเทศไทยโดยเฉลี่ย 150 คน และมีชาวมาเลเซียมีความประสงค์เดินทางกลับเข้าไปยังประเทศตนเอง โดยเฉลี่ยชั่วโมงละ 20 คน ซึ่งคนกลุ่มนี้เดินทางเข้ามาประเทศไทยก่อนหน้าแล้ว เพื่อนำยานพาหนะที่ตกค้างอยู่ในประเทศไทย ช่วงเชื้อไวรัสโควิด 19 ระบาด หรือ ยานพาหนะที่ตกค้างนานกว่า 2 ปี กลับภูมิลำเนา ซึ่งมีอยู่ 2 รูปแบบ คือ 1.กลุ่มบุคคลที่ไม่สามารถนำยานพาหนะกลับได้เนื่องจากปิดประเทศ ก่อนที่ใบอนุญาตหมดอายุ คนกลุ่มนี้สามารถนำรถกลับไปได้โดยไม่ต้องเสียค่าปรับ 2. กลุ่มบุคคลที่ไม่นำยานพาหนะกลับประเทศตามเวลากำหนด ก่อนประกาศปิดประเทศ กลุ่มนี้จะต้องเสียค่าปรับวันละ 1,000 บาท แต่ไม่เกิน 10,000 บาท ขึ้นอยู่กับกรณีความผิดของใบอนุญาตนำยานพาหนะเข้าประเทศ
และจากผลพวงของการอนุญาตนำยานพาหนะเข้าออกระหว่าง 2 ประเทศได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นายวัลลภ วุฒาพาณิชย์ นายด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก เปิดเผยว่า ผลพวงที่ตามมาจะทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก ที่ซบเซาจากพิษโควิด 19 มานานกว่า 2 ปี จะค่อยๆกระเตื้องขึ้นและกลับคืนมาสู่สภาวะปกติในเร็ววัน